POLITICS

‘ภคมน’ จี้ปฏิรูปงบจังหวัด-กลุ่มจังหวัด ชี้ใช้ก่อสร้างซ้ำซาก ไม่แก้ปัญหาสังคม

‘ภคมน’ ซัด งบจังหวัดกลุ่มจังหวัด ใช้ทำแต่ถนน – ไฟฟ้า – ไฟจราจร ไม่แก้ปัญหาสังคม แนะ ต้องใช้งบให้ตอบโจทย์ท้องถิ่น – ให้อำนาจ อปท. – เน้นจังหวัดล้าหลัง จี้ ต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น

วันนี้ (15 ส.ค. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระ 2 – 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ในมาตรา 28 งบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด

นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า งบประมาณส่วนนี้เป็นจำนวน 26,525 ล้านบาท ตนเองเห็นโครงสร้างงบประมาณจังหวัด วิเคราะห์งบประมาณ หรือรายละเอียดการจัดสรรงบประมาณ ก็ยืนยันว่า งบจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ไม่ได้ถูกใช้เพื่อตอบโจทย์ของพื้นที่ แม้ว่านโยบายของงบประมาณก้อนนี้ จะเขียนไว้ชัดว่าต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึง แต่ดูเหมือนหลักเกณฑ์ข้อนี้จะถูกมองข้าม

งบประมาณของกลุ่มจังหวัดทุกปี ถูกใช้แบบแพตเทิร์นเดิม ๆ งบประมาณก้อนใหญ่ก้อนนี้ ได้รับงบประมาณสูงไปอันดับต้น ๆ ของหน่วยรับงบประมาณทั้งหมด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน งบประมาณก้อนนี้มีโครงสร้างการใช้จ่ายที่เอาง่าย ไม่ว่าจะตั้งชื่อมาว่าอะไรก็ตาม สุดท้ายหักลบกลบหนี้ ก็เป็นการสร้างถนน ทำสะพาน ติดไฟฟ้าส่องสว่าง ไฟจราจร อีกส่วนหนึ่งเอาไปจ่ายกับการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งน้ำ และเหลือก็นำมาสร้างเป็นสิ่งก่อสร้างกระจุกกระจิก และจัดอบรมสัมมนา จากประเภทที่ตัวเองแยกมา จะเห็นได้ว่างบประมาณถูกใช้กับ การซ่อมสร้าง แต่ปัญหาพื้นที่ในประเทศไทย มีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีปัญหาความยากจน มีปัญหาที่ประชาชนเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขอีกมากมาย เรื่องเหล่านี้ไม่ถูกแก้ไขเลย และปัญหาเหล่านี้ไม่มีทางถูกแก้ด้วยการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดปีหนึ่ง 26,525 ล้านบาท และแนวโน้มจะสูงสุดที่ 28,000 ล้านบาท เพราะเกณฑ์จัดสรรยังจัดสรรแบบที่จังหวัดใหญ่ และรวย ได้งบประมาณก่อน แม้จะบอกว่ามีสัดส่วนการพิจารณาที่มีสัดส่วนคนจนแต่สัดส่วนนี้แค่ 10% เท่านั้นนำมาพิจารณา

“มิติสังคม คนจน เด็กยากจน ไม่ได้เรียนหนังสือ คนเข้าถึงบริการสาธารณสุขในพื้นที่ห่างไกล ก็ดิ้นรนกันไป เพราะงบประมาณอย่างเป้าไปที่การก่อสร้างอยู่ดี” นางสาวภคมน กล่าว

นางสาวภคมน กล่าวต่อว่า งบประมาณไหนก้อนใหญ่ จะมีงบอยู่ก้อนหนึ่ง ชื่อว่างบบริหารจังหวัดแบบบูรณาการมีปีหนึ่งประมาณ 700 กว่าล้านบาท ซึ่งปีนี้อยู่ที่ 792 ล้านบาท จัดสรรให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจังหวัดเล็กได้ 8 ล้านบาท จังหวัดกลาง 9 ล้านบาท จังหวัดใหญ่ได้ 10 ล้านบาท จังหวัดไหนผู้ว่าฯ เป็นหัวหน้ากลุ่มจังหวัด ก็ได้เพิ่มอีก 4 – 6 ล้านบาท ตนเองตั้งคำถามว่าเงินก้อนนี้มีไว้เพื่ออะไร แล้วมีรายละเอียดการใช้งบประมาณให้ ทำไมต้องมี ในเมื่อเรามีแผนพัฒนาจังหวัดอยู่แล้ว เห็นไหมว่าโครงสร้างงบประมาณจังหวัด และกลุ่มจังหวัดเป็นการติดอาวุธให้กับตัวแทนราชการส่วนภูมิภาค

นางสาวภคมน กล่าวอีกว่า ปีนี้รัฐบาลจะมีงบกลางให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รวมเป็นเงิน 256 ล้านบาท จัดสรรตามจังหวัดจังหวัดเล็ก 3 ล้านบาท จังหวัดกลาง 3.6 ล้านบาท จังหวัดใหญ่ได้ 4 ล้านบาทเพิ่มขึ้นอีก เท่ากับว่าปีนี้งบบริหารงานแบบบูรณาการให้กับผู้ว่าฯ รวมแล้ว 1,000 กว่าล้านบาท เอาไว้ทำโครงการที่ส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาความเร่งด่วนของประชาชนในวงกว้างไม่ต้องมีแผนล่วงหน้าพิจารณาเอาตามความเร่งด่วน

งบบริหารจัดการจังหวัดแบบบูรณาการ ที่มีเป็นงบที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดกระเป๋าเอาไว้แบบนี้ถึงเรียกว่างบผู้ว่าฯ CEO ตอนนี้ขอตัดงบงบประมาณทั้งหมด และต้องยืนยืนยันว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นตัวแทนรัฐส่วนกลาง ดำเนินงานตามแผนกระทรวงเลย ไม่ต้องมีเงินติดกระเป๋าไว้บริหารอำนาจ แต่ความพยายามในการเพิ่มงบประมาณเข้าไปให้กับอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ตนเองว่านี่คือการพยายามปิดประตูการกระจายอำนาจ ลดทอนอำนาจบริหารของผู้บริหารท้องถิ่น เดือดร้อนอะไรก็วิ่งเข้าหาผู้ว่าฯ เพราะเขางบประมาณ ดังนั้น ตนเองขอเสนอ และย้ำอีกครั้งว่าการปฏิรูปงบประมาณของจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ต้องเป็นไปในรูปแบบ

งบต้องถูกใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ไม่ใช่ใช้เพื่อสร้างอย่างเดียว ต้องใช้เพื่ออุดหนุนมิติทางสังคมอื่นด้วย การจัดสรรงบประมาณใหม่เน้นพัฒนาจังหวัดที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง จัดงบตามยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีอำนาจและงบประมาณให้แก่ อปท. ให้บริหารโดยตรง ไม่ต้องผ่านผู้ว่าฯ เพราะผู้ว่าฯ คือกลไกของรัฐส่วนกลาง ที่มักปิดกั้นการกระจายอำนาจ ถ้าจะกระจายอำนาจจริง และหากรัฐบาลมุ่งหวังที่จะมีการกระจายอำนาจจริงต้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ใกล้ชิดกับประชาชนได้ตัดสินใจในการใช้อำนาจและงบประมาณ

นางสาวภคมน กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองลังเลอยู่นานที่จะซักถามข้อสงสัยนี้หรือไม่ ตนเองมีความสงสัยเรื่องนี้มาประมาณ 1 เดือน ว่ามีโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่เป็นงบอบรมเป็นอาสาสมัครกู้ชีพในพื้นที่ท่องเที่ยว ตั้งโครงการมาแบบซ้ำกัน แต่งบประมาณออกเป็น 2 ก้อน ตนเองในฐานะที่ติดตามเรื่องนี้ ไม่เชื่อว่าเมื่ออนุมัติโครงการไป การดำเนินงานจะแตกต่างกัน จึงฝากให้กรรมาธิการตอบคำถามข้อนี้ด้วย

Related Posts

Send this to a friend