‘พนิดา’ เสนอ ปรับลดงบซ่อมบำรุงอากาศยาน ตร. 5% ชี้ งบไม่ตอบโจทย์
‘พนิดา’ เสนอ ปรับลดงบซ่อมบำรุงอากาศยาน ตร. 5% ชี้ งบไม่ตอบโจทย์-ใช้งานได้จริงน้อย เสี่ยงเกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (15 ส.ค. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระ 2 – 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ในมาตรา 24 กระทรวงศึกษาธิการ โดย นางสาวพนิดา มงคสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน อภิปรายเสนอปรับลดงบประมาณส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐ กระทรวงหรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรีลง 5% โดยพุ่งเป้าไปที่งบซ่อมบำรุงอากาศยานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วงเงิน 950 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถตอบโจทย์ภารกิจหน้าที่ได้จริง จนเกิดเหตุอากาศยานตำรวจตก 3 ลำ ภายใน 3 ปี และมีตำรวจเสียชีวิต 9 นาย เป็นสัญญาณเตือน ว่า ระบบซ่อมบำรุงของอากาศยานตำรวจกำลังมีวิกฤติครั้งใหญ่ และเรากำลังจะผ่านงบประมาณก้อนนี้ โดยที่ยังไม่มีการชี้แจงจากสตช. ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร โดยเฉพาะผลการตรวจสอบทุจริต ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีเครื่องบินทั้งหมดจำนวน 11 ลำ ใช้งานจริงได้ 1 ลำ อยู่ระหว่างซ่อม 5 ลำ พิจารณาจำหน่าย 5 ลำ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดจำนวน 71 ลำ ใช้ได้จริง 4 ลำ อยู่ระหว่างซ่อม 30 ลำ พิจารณารอจำหน่าย 37 ลำ แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการใช้จ่ายงบประมาณการซ่อมบำรุงของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังมีปัญหาทั้งที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับงบประมาณก้อนนี้ทุกปี
น.ส.พนิดา กล่าวอีกว่า ตนเองได้เคยสอบถามผู้ชี้แจงจากกองบินตำรวจในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พบว่างบประมาณดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการซ่อมบำรุง รวมถึงการจัดสรรงบก็ไม่ตอบสนองความต้องการ อากาศยานไม่ถูกบำรุงตามรอบของที่ไม่เสียก็เลยเสีย ทำให้ค่าบำรุงรักษาสูงกว่าที่ควรจะเป็น จึงเป็นสาเหตุให้เครื่องบินที่อยู่ระหว่างการซ่อมใช้การไม่ได้จำนวนมาก
ทั้งนี้ นางสาวพนิดา ยังกล่าวอีกว่า ไม่ใช่แค่เพียงอากาศยานเท่านั้น แต่อุปกรณ์ประกอบการบินก็มีปัญหา อาทิ กรณีลวดสลิงกระตุกร่มมีปัญหาไม่กางจนทำให้นักเรียนนายร้อยตำรวจ เสียชีวิต 2 นาย พร้อมย้ำว่านี่เป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียวจึงสอบถามถึงการใช้จ่ายงบประมาณในปี 69 โดยเฉพาะการประเมินงบที่ต้องใช้ซ่อมบำรุงทั้งหมดต้องใช้เท่าไหร่ เพื่อนำมาสู่การตัดสินใจในการจัดหาเครื่องบินที่ปลอดภัย และพร้อมใช้งานใหม่ มากกว่าการดันทุรังซ่อมเครื่องเก่าเกินอายุการใช้งาน












