พลังประชารัฐ แถลงพร้อมหนุนแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย

พลังประชารัฐ แถลงจุดยืนพร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย มั่นใจโควตารัฐมนตรียังเหมือนเดิม รอคุย ‘พลเอกประวิตร’ ร่วมโหวตด้วยหรือไม่
วันนี้ (15 ส.ค. 67) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นำทีม สส.แถลงจุดยืนพรรคพลังประชารัฐต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค. 67)
นายสันติ กล่าวถึงจุดยืนและแนวทางการร่วมรัฐบาล 3 ข้อ ประกอบด้วย
1.พรรคพลังประชารัฐพร้อมสนับสนุนบุคคลในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
2.พรรคพลังประชารัฐยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนและธำรงไว้ในสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยังคงจุดยืนเดิมที่จะไม่ร่วมงานกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
3.พรรคพลังประชารัฐยังยึดมั่นในนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้เกิดการส่งเสริมความปรองดองของคนในชาติ และจะร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติต่อไป
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าก่อนหน้านี้มีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับหัวหน้าพรรค ซึ่งมีมติชัดเจนตามที่แถลงข่าวไป เราสนับสนุนบุคคลใดก็ตามที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอ และสิ่งสำคัญที่เราจะต้องยึดมั่นในนโยบาย ส่วนหัวหน้าพรรคจะมาร่วมโหวตด้วยหรือไม่นั้น ตนเองจะกลับไปหารืออีกครั้ง
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรี เรามี 4 โควตาตามเหมือนเดิม ขอยืนยันว่าทุกอย่างภายหลังจากได้นายกรัฐมนตรีแล้ว ตนเองและนายสันติ จะมีการดำเนินการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง ยังไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะมี 2 คน แต่พร้อมสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นคนใดก็ตาม
ส่วนนโยบายพรรคพลังประชารัฐชัดเจนว่าเราจะให้เกียรติและร่วมมือกันตัดสินใจ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตนั้น หลังจากที่คุยกันอย่างไม่เป็นทางการ พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้แถลงอีกครั้ง สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรี จะมีการสลับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายของหัวหน้าพรรค
ทั้งนี้การประชุมระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ว่า มีความชัดเจนทุกอย่างวันนี้ สส.ทั้งหมด ก็รวมกันยืนอยู่ที่ตรงนี้ และเป็นตัวแทนของหัวหน้าพรรค ขณะที่จุดยืนเรื่องมาตรา 112 กับข้อครหาที่นายชัยเกษม นิติสิริ เคยเสนอแก้นั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แก้ได้ เรามีจุดยืนชัดเจนว่าเราจะรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์