POLITICS

‘พิธา’ หารือฝุ่น PM 2.5 เล็งตั้งศูนย์ปฏิบัติงานมลพิษข้ามชาติอาเซียน ที่เชียงใหม่

‘พิธา’ หารือฝุ่น PM 2.5 เล็งตั้งศูนย์ปฏิบัติงานมลพิษข้ามชาติอาเซียน ที่เชียงใหม่ เผยกระทบเศรษฐกิจหมื่นล้าน แต่มีงบแก้ไขหลักร้อยล้าน ยันผลักดัน พรบ.อากาศสะอาด ตั้งเป้าปีหน้าภาคเหนือฝุ่นลดลง

วันนี้ (15 มิ.ย. 66) ที่อาคารเชียงใหม่ศิริพานิช อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกลจัดการประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฝุ่น PM 2.5 ในปี 2567 โดยมี สภาลมหายใจ ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยว และภาคเอกชนจากส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 เข้าร่วมหารือด้วย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเข้าร่วมรับฟังปัญหา และร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยระบุช่วงหนึ่งในที่ประชุมว่า ปัญหาฝุ่นเกิดขึ้นทุกปีที่เชียงใหม่ เกิดขึ้นช่วง ก.พ.-เม.ย. แม้ตนเองไม่ได้เป็นคนเชียงใหม่ แต่ทราบปัญหา และงบประมาณการบริหารงานในเรื่องนี้ที่เป็นเบี้ยหัวแตก ไม่สามารถที่จะมารวมพลังการบริหารจัดการได้

ทั้งนี้ หากตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร ตนมีความพร้อมแก้ปัญหา โดยจะต้องแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่นเพราะผลกระทบเรื่องฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากการประเมินของ 3 สถาบันการเงิน พบว่าเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจหลักหมื่นล้านบาท แต่มีงบประมาณการแก้ไขปัญหาหลักร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดสัดส่วน ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แม้นโยบายเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจะดีแค่ไหนก็ตาม

ฉะนั้นนี่จึงเป็นความท้าทายใหม่ที่จะต้องมีการจัดสรรงบประมาณใหม่ และเมื่อเกิดการแก้ไขปัญหาที่เป็นสัดส่วนสอดคล้องกัน รวมถึงนอกจากจะคุยเรื่องบประมาณที่เหมาะสมแลัว ยังต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เหมาะสมด้วย ต้องผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่จะมีโครงสร้างอำนาจในการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม เรียงลำดับการแก้ปัญหา แบ่งรูปแบบของปัญหาให้ชัดเจน และผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหากับต่างชาติ ให้ระดับ พหุภาคี และทวิภาคี

นายพิธา ระบุว่า ประชาคมอาเซียนได้ลงนามความร่วมมือเรื่องเกี่ยวกับมลพิษข้ามชาติ มีข้อตกลงร่วมตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 ผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี และยังไม่มีผู้นำคนไหนทำให้เกิดเป็นรูปธรรม อีกทั้งศูนย์ปฏิบัติงานเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศของอาเซียน (ASEAN Head’s Pollution Center) มีการตั้งมาแล้ว แต่ยังไม่มีสถานที่ตั้ง ตนจึงมีความตั้งใจว่า คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ต้องนำศูนย์ปฏิบัติการนี้ มาประจำอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีประเทศไหนสนใจ ตนคิดว่าต้องนำมาตั้งที่เชียงใหม่เลย เพื่อให้เกิดการต่างประเทศเชิงรุก

“…ไม่ต้องประชุมใหม่ ไม่ต้องเสียเวลาใหม่ ใช้ข้อตกลงเดิมที่มีอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2004 นั่นแหละ เพียงแต่ว่าคุณใส่ใจสักหน่อยคุณจะรู้ว่ามีข้อตกลงนี้อยู่ แล้วมีบอกมาว่าให้ตั้ง แต่ยังไม่มีประเทศไหนเสนอตัวตั้ง ผมนี่แหละจะเสนอตัวตั้ง และจะเอามาตั้งที่เชียงใหม่เลย และเมื่อมีเซ็นเตอร์ ปฏิบัติการคราวนี้ทุกคนต้องสนใจแล้ว…” นายพิธา กล่าว

นอกจากนี้ยังมีกองทุนมลพิษข้ามชาติ ที่ตั้งไว้แล้วแต่ยังไม่มีใครนำเงินตรงนี้มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน กฎหมาย ศูนย์ปฏิบัติงาน มันมีเชื้ออยู่แล้ว เพียงแต่คนที่เป็นผู้นำไม่ได้เห็นภาพ และไม่สามารถช่วยได้

Related Posts

Send this to a friend