‘พิเชษฐ์’ ระบุ รมช.ชาดา “ใส่ร้าย ข่มขู่ ประธานในที่ประชุมอย่างรุนแรง”

หลังปล่อยให้ สส.ก้าวไกล ขึ้นสไลด์รูปถ่ายคู่ ศปปส. ระหว่างอภิปรายญัตติทบทวนการอารักขาขบวนเสด็จ

ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ (15 ก.พ. 67) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ได้เล่าย้อนถึงเหตุวิวาทะ ระหว่าง นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล กับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เมื่อวานนี้ (14 ก.พ. 67) ในระหว่างที่ตนเองกำลังทำหน้าประธานในที่ประชุม ช่วงการอภิปรายญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาขบวนเสด็จ ที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล นำเสนอสไลด์ โดยขึ้นรูปของนายชาดา ถ่ายรูปกับกลุ่ม ศปปส. กระทั่งนายชาดา ตอบโต้ว่า “ไม่เหมาะสม” พร้อมถามประธานในที่ประชุมขณะนั้น ก็คือ นายพิเชษฐ์ว่า ใครเป็นผู้อนุญาตและต้องขอโทษ

นายพิเชษฐ์ ได้ชี้แจงว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการใส่ร้าย ข่มขู่ ประธานในที่ประชุมอย่างรุนแรงว่าไม่เป็นกลาง จึงขอทำความเข้าใจไปถึงรัฐมนตรีว่า สภามีคณะกรรมการตรวจสอบ วินิจฉัยความเหมาะสม และตรวจสอบข้อมูลก่อนออกเผยแพร่ไปยังสื่อต่างๆ โดยมีหลักเกณฑ์การส่งข้อมูลการประกอบการอภิปราย พร้อมนำหลักเกณฑ์การส่งข้อมูลประกอบการอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาแสดงต่อที่ประชุม โดยในเอกสารในช่วงท้าย ระบุว่า ทั้งนี้ข้อมูลที่ไม่ต้องปกปิดข้อมูลหรือเบลอภาพ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี กรรมาธิการ บุคคลในวงงานสภาผู้แทนราษฎร หนังสือเวียน ประกาศ ระเบียบหน่วยงานราชการซึ่งเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณในวงกว้าง ดังนั้น การไม่เบลอ จึงเป็นเงื่อนไขที่ใช้มาโดยตลอด

นายพิเชษฐ์ ย้ำว่า “ผมให้เกียรติทุกท่าน” ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เมื่อมาอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เกิดจากการที่ประชาชนไว้ในให้มาเป็นตัวแทน ดังนั้น จึงมีสิทธิและเสรีภาพของทุกคนจึงเท่าเทียมกัน และในฐานะที่ได้รับเลือกให้มาเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พยายามรักษาความยุติธรรม เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะเข้าข้างใคร โดยหากมีปัญหาสามารถคุยกันข้างนอกได้