POLITICS

จุลพันธ์ มอง เชื่อประชาชนรอล้างแค้น เข้าคูหาฉีกหน้ากากคนดี

วันนี้ (15 ก.พ. 66) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152

นายจุลพันธ์ อภิปรายว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ได้อภิปรายทั่วไปและอภิปรายไม่ไว้วางใจรวม 7 ครั้ง พอมาถึงวันนี้เป็นครั้งที่ 8 ก็รู้สึกเอือมระอากับความดื้อดึงของรัฐบาลที่ไม่ฟังเสียงสะท้อนของประชาชน รู้สึกเบื่อหน่ายกับการบริหารงานที่ผิดพลาดล้มเหลวจนประชาชนเดือดร้อนกันทั่วไปหมด และรู้สึกสงสารที่ประชาชนต้องมาทนทุกข์กับรัฐบาลที่ไม่มีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจ ดังที่สื่อทำเนียบฯ ให้ฉายา “หน้ากากคนดี” ที่แม้จะบอกว่าเป็นคนดีมาแก้ไขปัญหา สุดท้ายกลับล้มเหลวทุกมิติ

แม้ประเทศไทยมีต้นทุนสูงกว่าประเทศอื่น ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิศาสตร์ ศักยภาพประชาชน ไปจนถึงระบบสาธารณสุข นายจุลพันธ์ ตั้งคำถามว่า เหตุใดเศรษฐกิจประเทศไทยไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เลย อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยต่ำที่สุดในอาเซียนในรอบ 7-8 ปีที่ผ่านมา ต่างประเทศก็ไม่สนใจการค้าการลงทุนในประเทศไทย สินค้าเกษตรไม่สามารถส่งออกไปสู้ในตลาดโลกได้ ทำไมคนไทยถึงยังเดือดร้อน ?

“ทำไมคนไทยเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แล้วเศรษฐกิจไทยถึงสงบเงียบเป็นป่าช้าขนาดนี้ ? ทำไมเสือตัวที่ห้าอย่างเรา วันนี้เป็นคนป่วยของภูมิภาค เป็นประเทศที่ไม่มีใครมองเห็น ? ทำไมคนรุ่นใหม่จำนวนมากตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปหาอนาคตใหม่นอกประเทศไทย ? ถามคนหนึ่งก็อาจจะหงุดหงิด ถามอีกคนหนึ่งก็อาจจะไม่รู้ พอมาทบทวนก็พบว่าปัญหาเกิดจากรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความพังพินาศทางเศรษฐกิจตลอด 8 ปี เราควรไปต่อ หรือพอแค่นี้ ?”

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวว่า รัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักหารายได้ โดยก่อหนี้ตลอด 8 ปี สูงกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมดรวมกัน ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 10 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะสูงกว่า 60% ของ GDP จึงทำให้คนไทยกำลังเข้าสู่วัยเกษียณพร้อมกับหนี้ก้อนโต

“วันนี้ประชาชนไม่เชื่อในกระบวนการตรวจสอบขององค์กรอิสระ วันนี้เขาหวังพึ่งบริการคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแฉกระบวนการทุจริตคอรัปชั่นและความเน่าเฟะของประเทศไทยภายใต้การบริหารของ พลเอก ประยุทธ์” นายจุลพันธ์ จึงเสนอ ดังนี้

1.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรพิจารณาตัวเอง และยุติบทบาททางการเมืองได้แล้ว เพราะได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศไทย

2.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรเรียนรู้จากพรรคการเมืองซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศจนประสบความสำเร็จ นโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้นำเสนอต่อสังคมไปแล้ว ทุกนโยบายทำได้จริง แล้วจะแก้ไขปัญหาต่อพี่น้องประชาชนได้ อย่างหลักคิดของพรรคเพื่อไทยที่ว่า สร้างรายได้ใหม่ สร้างชีวิตใหม่ และสร้างโอกาสใหม่

“ผมไม่คิด ผมไม่เชื่อว่า ท่านจะรับฟังที่ผมแนะนำไปหรอก เพราะท่านออกอาการยื้ออยู่ต่อ ท่านอยู่ไปเลยเหลือเวลาอีกเดือนเศษ ๆ แต่ประชาชนเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่มืดมิด ประชาชนจะเข้าคูหาแล้วฉีกหน้ากากคนดีของท่านออก ระบอบประชาธิปไตยจะให้อำนาจประชาชน แล้วประชาชนจะล้างแค้นท่าน เวลาของท่านกำลังจะหมดลง ท่านนับถอยหลังได้เลย” นายจุลพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend