‘วิรัตน์’ ซัด ‘ประยุทธ์’ ไร้น้ำยา น่าสลับให้ ‘ประวิตร’ นั่งเก้าอี้นายกฯ แทน
‘วิรัตน์’ ซัด ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ไร้น้ำยา น่าสลับให้ ‘พล.อ.ประวิตร’ นั่งเก้าอี้นายกฯ พี่น้องจะได้ไม่ทะเลาะกัน จวกทหารไทยคุมอำนาจเบ็ดเสร็จในอรัญประเทศ แต่ปล่อย ตชด. เขมร รุกล้ำชายแดน-ข่มขู่ชาวบ้าน
วันนี้ (15 ก.พ. 66) นายวิรัตน์ วรศวิริน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
นายวิรัตน์ กล่าวว่า หวังว่าครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ แม้ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีจะตอบไม่ตรงคำถาม แต่จำเป็นต้องถาม เพื่อให้นายกฯ ทำหน้าที่ ถ้าทำไม่ได้ ที่นั่งพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐว่างอยู่มาก ควรลงมานั่ง แต่พรรคเสรีรวมไทยไม่ว่าง เพราะช่วงนี้ฮอต
“ที่ผ่านมาพูดไปแล้วหลายเรื่องก็ได้รับการแก้ไข เช่น ยุบ ศบค. หรือ เรื่องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผู้คนก็ดีใจ เศรษฐกิจก็เดินหน้า เสียดายแต่ว่า คนที่ทำกลับเป็นลุงป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ลุงตู่ผู้กู้ชนะสิบทิศ ดูแล้วลุงป้อมเก่งกว่าลุงตู่เยอะ น่าจะสลับที่นั่งกันบ้าง ถ้าลุงป้อมน่าจะลุกให้ท่านนั่งบ้าง พี่น้องจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน … ลุงตู่ทำมา 8 ปี คนได้ดีคือลุงป้อม”
ระหว่างนั้นเอง นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้ขอประท้วงให้อภิปรายอยู่ในเนื้อหาสาระ ไม่นอกเรื่อง ซึ่ง นายวิรัตน์ พูดแทรกว่า “ท่านนั่งก่อนก็ได้ ยังไม่มีอะไร ยังไม่ทันจะเข้าเรื่องเลย” ซึ่ง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในฐานะประธานการประชุมขณะนั้น วินิจฉัยว่า เท่าที่ฟังมาไม่ได้มีอะไรอยู่นอกเนื้อหา
นายวิรัตน์ ระบุว่า จะมาทวงถามความคืบหน้า สืบเนื่องจากปัญหาการทุจริตในกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเคยอภิปรายไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากหลังสงครามกัมพูชาจบ กลับไม่มีการยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากชั่วคราวกลายเป็นชั่วโคตร กองทัพใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเช่าที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไม่เป็นการเช่าฟรีๆ ไม่จ่ายเงิน จนชาวบ้านต้องจ่ายเงินเช่าที่ดินทำกินแทนทหาร
ทั้งยังมีการใช้อำนาจทหารกีดกันกดดันไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาใช้พื้นที่ทำกินได้ จนกระทั่งมีการออกอุบายให้จัดตั้งทหารกัมพูชามาคุกคามชาวบ้าน จนเมื่อประชาชนร้องขอให้ทหารไทยมาช่วยขับไล่ แต่ก็ไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด จึงเห็นได้ว่าการพยายามกีดกันชาวบ้านออกจากพื้นที่ เป็นเพราะเกรงจะกระทบกับขบวนการค้าของเถื่อน ตรงกันข้าม ผ่านไป 7 เดือน ยังไม่คืบหน้า จึงต้องมาทวงถามนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
นายวิรัตน์ ยังเปิดเผยต่อไปว่า ชายแดนของ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังปรากฏการฝ่าฝืนข้อตกลง MOU รุกล้ำเข้ามาในชายแดนไทยหลายครั้ง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบจึงพบว่ามีการทุจริตในกองทัพเกี่ยวข้องกับขบวนการของเถื่อน และยังช่วยปิดบังไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช. และเมื่อได้พบบ้านของชาวกัมพูชาอยู่ใกล้ชายแดน MOU ไม่ถึง 50 เมตร ทหารกลับห้ามไม่ให้เข้าไปตรวจสอบ แต่ ตชด. กัมพูชากลับเข้ามาข่มขู่ชาวบ้านที่กำลังรังวัดพื้นที่ได้
“งานของทหารคือการออกรบ ไม่ใช่ตีกอล์ฟ ต้องพร้อมพลีชีพเพื่อชาติ ยอมตาย ถ้ากลัวก็เลี้ยงเสียข้าวสุก เขาเลี้ยงท่านพันวัน เพื่อใช้งานท่านวันเดียว เขมรบุกมา 40-50 คน ไม่เคยเห็นเขาส่งหนังสือมาประท้วงไทยเลย อยากถามท่านว่าต้องท่านคุมกำลังที่นั่น ตอนเขมรเขาก่อสร้างติดชายแดน MOU ท่านเคยข้ามไปไหม แต่ถ้าท่านเคยข้าม ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้” นายวิรัตน์ กล่าว












