‘เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ‘ ยื่นหนังสือขอพบ เศรษฐา’ เสนอข้อกังวลต่อโครงการ ’แลนด์บริดจ์’
‘เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ‘ ยื่นหนังสือขอพบ เศรษฐา’ เสนอข้อกังวลต่อโครงการ ’แลนด์บริดจ์’ ในวาระประชุม ครม.สัญจร จ.ระนอง 23 ม.ค.นี้ หวังนายกฯ รับฟังความเห็นต่าง
วันนี้ (15 ม.ค. 67) ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร นายสมโชค จุงจาตุรันต์ คณะทำงานเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เพื่อขอให้ประสานงานให้เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีโครงการแลนด์บริดจ์ โดยมีนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นผู้รับหนังสือ
เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ระบุว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีมาประชุมสัญจรที่จังหวัดระนอง ในวันที่ 23 มกราคม 2567 นี้ ซึ่งเชื่อว่าการมาประชุมดังกล่าว มีนัยสำคัญที่ต้องการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง – ชุมพร อันเป็นไปตามนโยบายสำคัญที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และก่อนหน้านี้ได้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการดังกล่าว ได้เดินทางมาจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนในพื้นที่ได้แสดงถึงความกังวลในมิติต่างๆ และไม่เห็นด้วยหากจะมีการทำโครงการนี้ในพื้นที่
ประกอบกับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีคณะกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคก้าวไกลจำนวน 4 ท่าน ขอลาออกจากคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว เพราะไม่เห็นด้วยกับรายงานที่สรุปออกมา ด้วยเห็นว่าเป็นรายงานฉบับตัดแปะ และไม่ได้ตอบข้อสงสัยที่เคยตั้งคำถามไว้ ทั้งยังเห็นว่าคณะกรรมาธิการจำนวนหนึ่งมีเจตนาที่เอนเอียง เพื่อให้ผลการศึกษาสอดคล้องไปกับแนวทางของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นเหตุผลที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมานำเสนอข่าวแบบกล่าวหาว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ทั้งหมด ล้วนเป็นพวกได้รับการสนับสนุนจาก NGO และรัฐบาลสิงคโปร์ ยิ่งเห็นได้ถึงเจตคติที่เอนเอียง และไม่รับฟังเหตุผลของความคิดที่แตกต่าง
เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ต้องขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ในวันที่ 23 มกราคม 2567 นี้ ที่ท่านจะเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรจังหวัดระนอง ทั้งนี้เพื่อจะได้อธิบายถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงว่าทำไมพวกเราจึงมีความกังวลและไม่เห็นด้วยกับโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง – ชุมพร ต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง จึงขอประสานผ่านมายังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรในฐานะพ่อเมือง ได้โปรดดำเนินการประสานงานไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ให้นากยกรัฐมนตรีได้รับทราบต่อไป
ทั้งนี้ นายสมโชค จุงจาตุรันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนพะโต๊ะ ไม่ได้คัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์อย่างหัวชนฝา แต่โครงการนี้สร้างมาเพื่อให้ถูกมองว่าศักยภาพของพื้นที่ไม่สอดคล้องกับโครงการ จึงอยากให้รัฐบาลเปิดเวทีรับฟังความเห็นอย่างตรงไปตรงมา จัดทำ SEA หรือการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ เพื่อให้ได้ผลศึกษา ว่าหากทำโครงการนี้แล้วประเทศชาติจะได้อะไรประชาชนจะได้อะไรและสอดคล้องกับศักยภาพของทรัพยากรในพื้นที่หรือไม่ เพราะในอำเภอพะโต๊ะกว่า 97% ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก สร้าง GDP เป็นอันดับหนึ่งให้จังหวัดชุมพร ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อปี หากมีโครงการแลนด์บริดจ์จะไม่สร้างรายได้ให้คนในพื้นที่แต่กลับจะมาทำลายอาชีพเกษตรกรรมของคนในพื้นที่อย่างสิ้นเชิง เพราะโครงการอาจผ่านพื้นที่ป่าต้นน้ำ พื้นที่ 1A และผ่านพื้นที่สงวนชีวมณฑล (แรมซาร์ไซต์) ใน จ.ระนอง รวมถึงความกังวลในอนาคต จะเกิดพื้นที่อุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอพะโต๊ะกว่า 18,740 ไร่ พื้นที่ อ.หลังสวน 47,800 ไร่ และ ต.ราชกรูด 3,669 ไร่ เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่มากและพื้นที่เกษตรกรรมอาจเกิดการแย่งชิงน้ำไปใช้ เป็นประเด็นที่ผู้ศึกษาโครงการ หรือ สนข. ก็ยังตอบไม่ได้