นายกฯ เยือนญี่ปุ่น หวังดึงนักลงทุนเข้าไทยมากขึ้น
นายกฯ เยือนญี่ปุ่น หวังดึงนักลงทุนเข้าไทยมากขึ้น เตรียมประกาศฟรีวีซ่าเอื้อนักธุรกิจ 2 ประเทศ ฝาก อนุทิน-กิตติรัตน์ ดูเรื่องหนี้ – PM2.5 มองข้อเสนอ ผู้ว่าฯ กทม. Work from home เป็นอีกแนวทาง ย้ำ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน
วันนี้ (14 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยก่อนเดินทาง เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียนญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่าการเดินทางครั้งนี้คาดหวังในหลายเรื่องทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก การพบปะส่วนตัวกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา
นอกจากนี้ยังมีการพบปะส่วนตัวกับ เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไนดารุสซาลาม ซึ่งจะเข้าพิธีเสกสมรสในเดือนหน้าด้วย
โดยการเดินทางไปล่วงหน้าก่อน 2 วัน มีการเจรจาเรื่องการค้ากับญี่ปุ่น ส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับยานยนต์ ซึ่งจะได้เจอผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายรวมถึงธุรกิจอื่น เช่น พานาโซนิก และมีหลายธุรกิจที่ยังรอการยืนยัน ซึ่งหวังว่าจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เราอยากให้บริษัทยานยนต์ของญี่ปุ่นมาลงทุนเพิ่มมากขึ้น
การเดินทางครั้งนี้ก็มีนักธุรกิจเดินทางไปด้วย แต่จะเดินทางไปเอง เช่น ผู้บริหารฮอนด้า โตโยต้า ไปช่วยกันเจรจา นำการลงทุนกลับสู่ประเทศไทย
ส่วนจะทำให้ความหนักใจทางเศรษฐกิจมีแสงสว่างมากขึ้นหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าแสงสว่างมีอยู่แล้ว แต่เรื่องของความหนักใจ การแบกความหวัง ปากท้องประชาชน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำต่อไป
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มาลงทุนสูงสุดในประเทศไทย ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เราพยายามทำให้ความสัมพันธ์แนบแน่นมากขึ้นในการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่าย มีการประกาศว่าเราจะให้วีซ่าฟรีกับนักธุรกิจญี่ปุ่นด้วย เพื่อให้การเดินทางของทั้ง 2 ฝ่ายสะดวกมากขึ้น
ส่วนในช่วง 5 วันที่เดินทางไปต่างประเทศ มีเรื่องน่าห่วงหรือได้กำชับเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าช่วงที่นั่งรถมาก็ได้ส่งข้อความถึงทุกคน เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝากเรื่องหนี้นอกระบบ เรื่อง PM 2.5
ส่วนที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีการเสนอให้เวิร์คฟอร์มโฮมนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปกติที่ค่าฝุ่นจะขึ้นๆ ลงๆ ส่วนที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเสนอ ก็เป็นข้อเสนอที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ในช่วงของการแพร่ระบาด โควิด-19 ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันทุกวิถีทาง
ส่วนที่เมื่อวานนี้ตนได้เดินทางไปเที่ยวชมงานกาชาดที่สวนลุมพินี มองภาพรวมว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีมีคนให้ความสนใจเดินทางไปเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งงานจะไปจนถึงวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ถืว่สเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในต่างประเทศอย่างประเทศอังกฤษก็จะมีงานลักษณะคล้ายกัน คือ งานวินเทอร์วันเดอร์แลนด์ ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องมีการพูดคุยหารือกับนางสาวแพททองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์ ต้องมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันว่าจะสามารถยกระดับเป็นเฟสติวัลได้อย่างไรบ้างในอนาคต












