รมช. สธ. เปิดศูนย์ตรวจสอบการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี คุ้มครองผู้บริโภค
วันนี้ (14 ธ.ค. 65) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบ การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นศูนย์กลางรับเรื่องร้องเรียน เฝ้าระวัง สืบค้น และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ที่ให้บริการสุขภาพและผลิตภัณฑ์สุขภาพไม่ได้มาตรฐาน คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย และเป็นธรรม พร้อมนำระบบ API มาใช้เชื่อมโยงข้อมูลแลกเปลี่ยนกับภาคีเครือข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมกันนี้ นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
ดร.สาธิต กล่าวว่า “กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายพัฒนายุทธศาสตร์ และบริหารจัดการงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพ เพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเสียหาย จากการรับบริการสุขภาพ และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน โดยมอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบ การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับเรื่องร้องเรียน แจ้งเบาะแส รวมถึงเฝ้าระวัง ตรวจสอบการกระทำผิดทางเทคโนโลยี สืบค้นผู้กระทำความผิด ที่มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด พร้อมประสาน วิเคราะห์ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งทำการตรวจสอบการกระทำความผิด อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ สามารถจัดการประเด็นปัญหาของผู้บริโภค (Pain Point) ได้ถูกต้อง ช่วยคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยและเป็นธรรม”
ด้าน นายแพทย์สุระ กล่าวว่า “ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบ การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี ตั้งอยู่ที่ชั้น 6 อาคารกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีพนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย เป็นผู้ดำเนินการสืบค้น ตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูล หรือโฆษณาของสถานพยาบาล และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือที่ได้รับเบาะแสจากภาคีเครือข่าย และประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมาย ในลักษณะของการโฆษณา โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโอ้อวดเกินจริง ที่อาจจะส่งผลกระทบ หรือความเสียหายต่อผู้บริโภค ซึ่งไม่เพียงจะมีการเรียกสถานพยาบาล หรือสถานประกอบการมาดำเนินคดี
ในกรณีที่พบการกระทำผิด แต่จะมีการขยายผล ติดตามพฤติกรรม ตรวจสอบไปถึงผู้ที่คาดว่ามีความเกี่ยวข้อง กับการกระทำผิดในระบบออนไลน์อีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบ API (Application Programming Interface) มาใช้เชื่อมโยงกับซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างหน่วยงานภาคีเครือข่าย นอกจากนี้ จะมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย โดยมีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นฝ่ายเลขานุการ นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ตรวจจับสื่อโฆษณาที่ผิดกฎหมาย เพื่อเพิ่มความครอบคลุม และเพิ่มประสิทธิภาพ ในการคุ้มครองผู้บริโภค ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป”
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 มีการดำเนินคดีจับกุม และปราบปรามหมอเถื่อน สถานพยาบาลเถื่อน และคดีประเภทอื่น จำนวน 40 คดี และมีการสืบค้นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย อันนำมาสู่การเปรียบเทียบปรับแล้ว จำนวน 164 คดี หากประชาชนพบการกระทำความผิดหรือมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1426 ในวันเวลาราชการ












