ชัชชาติ ทำบุญวันสถาปนากรุงเทพมหานคร 50 ปี เตรียมเร่งหารือ สภา กทม. ปีหน้า

แก้ปัญหาหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว พร้อมเดินหน้าพัฒนาการศึกษา-จราจร ระบุ สั่งทุกเขตเตรียมแผนรับมือปีใหม่แล้ว

วันนี้ (14 ธ.ค. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีงานวันสถาปนากรุงเทพมหานคร ครบรอบ 50 ปี โดยได้นำ คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ข้าราชการ และลูกจัางกรุงเทพมหานคร รวมถึง นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภา กทม. และ สก.ร่วมทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 151รูป ณ ลานคนเมือง สักการะพระพุทธนวราชบพิตรและพิธีถวายเทวบรรณาการ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

นายชัชชาติ ระบุว่า วันนี้เป็นครบรอบสถาปนา 50 ปี เป็นหมุดหมายหนึ่ง แต่ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป ทำงานเพื่อประชาชนต่อ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมาก็มีอุปสรรคเยอะ เช่น เรื่องหาบเร่แผงลอยก็มีมิติของความยากจน ปัญหาชีวิตของคนที่ลำบากจากสภาพโควิด ก็พยายามดูแลไม่ให้เพิ่มขึ้น ดูแลระเบียบทางเท้าให้ดี การจะไปไล่ไม่ให้มีหาบเร่แผงลอยเลยก็จะไปกระทบชีวิตของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นการบริหารเมืองต้องหาจุดสมดุลกับชีวิตของผู้คน ซึ่งก็จะต้องช่วยหาทางออกให้พวกเขาด้วยจึงต้องใช้เวลา

รวมถึงเรื่องสายไฟลงดิน ก็ต้องใช้เวลา เพราะเป็นกระบวนการที่มีหลายหน่วยงาน และหลายเรื่องอยู่ในนโยบายที่จะต้องประสานงาน แต่กทม.ก็มีแผนปฏิบัติการที่ครบถ้วน กว่า 200 แผนที่ได้ดำเนินการไปแล้วขึ้นอยู่กับความช้าหรือเร็วที่ต้องดำเนินการ เหลือเพียงกว่า40แผนที่อาจจะติดข้อระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ตกค้างมานาน การจะจ่ายหนี้ไม่ใช่จะควักเงินจ่ายได้เลย แต่ต้องมีกระบวนการที่จะนำเงินจากสภากทม.มาจ่าย และดูความเกี่ยวข้องกับโครงการให้ถูกต้อง และทุกอย่างไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังเร่งแก้ปัญหาอยู่

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ปีหน้าจะมีการเร่งคุยกับสภา กทม. เรื่องของรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเฉพาะการจ่ายหนี้และการโอนทรัพย์สิน จะต้องหารือนอกรอบก่อนที่จะนำบรรจุเข้าสู่วาระ เพราะการก่อหนี้ผูกพันธ์ ผู้ว่าฯทำไม่ได้ ต้องผ่านสภาก่อน ซึ่งรถไฟฟ้า เป็นการก่อหนี้ผูกพันธ์ เพราะทำหลายปีและมีมูลค่าสูง ซึ่งสัญญาทั้งหมดที่จ่ายไปถึงปี 2585 กว่า 2 แสนล้าน จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเป็นเรื่องที่จะกระทบเป็นลูกโซ่เพราะมีงบก้อนเดียว ซึ่งยืนยันว่า กทม. ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปโกงใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องผ่านขั้นตอน และรอบคอบ ต้องเป็นไปตามระเบียบ

ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ดำเนินการเช่นกัน ทั้งการลอกท่ออย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปีหน้า การทำแซนบ็อกซ์โรงเรียน 56 แห่ง เพิ่มที่สีเขียว ที่ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 2 แสนต้น ทราฟฟี่ฟองดูแก้ไปแล้วกว่า 1.3 แสนเรื่อง จาก 1.8 แสนเรื่อง การยื่นขออนุญาตอาคารที่ยื่นออนไลน์ได้เพื่อลดข้อครหาใต้โต๊ะ โดยต้องขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคนที่มีขวัญและกำลังใจดี และการให้ความเป็นธรรมกับเขาจึงได้รับความร่วมมือที่ดี

นายชัชชาติกล่าวต่อไปว่า ในปีหน้า 2566 จะดำเนินการในหบายเรื่องพร้อมๆกัน โดยเฉพาะเรื่องจราจรที่จะต้องนำเทคโนโลยีมากำกับดูแลให้มากขึ้น เพื่อให้การควบคุมไฟจราจรมีประสิทธิภาพ รวมถึงจะเน้นเรื่องการพัฒนาการศึกษา เพราะเป็นหัวใจของการลดการเหลื่อมล้ำ กทม.รับผิดชอบ เด็ก 280,000 คน และ กทม.ได้พัฒนาต้นแบบโรงเรียนแซนบ็อกซ์ไปแล้ว 56 โรงเรียนในการปรับระเบียบให้เป็นนวัตกรรม หรืออินโนเวชั่นใหม่ๆ รวมถึงปรับศูนย์สาธารณสุขให้ดีขึ้น

นายชัชชาติ ยังกล่าวถึง การเตรียมความพร้อมการดูแลในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วยว่า กทม.ได้ให้แต่ละเขตดูแลคนที่ขออนุญาตจัดงานที่มีการใช้พลุไฟก็ให้ซักซ้อมให้ดี โดยสัปดาห์หน้าจะมีการหารือร่วมกับฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้เน้นเข้าไปตรวจตรา โดยเฉพาะห้าง ที่มีคนเข้าไปหนาแน่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจตราสถานบันเทิงไปแล้ว