ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง ‘หมอระวี’ หมิ่น ‘เสรีพิศุทธ์’ ปมแถลงเข้าร่วมรัฐบาล พปชร. ปี 62
ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง ‘หมอระวี’ หมิ่น ‘เสรีพิศุทธ์’ ปมแถลงเข้าร่วมรัฐบาล พปชร. ปี 62 ชี้ เป็นการชี้แจงเหตุผลร่วมรัฐบาล-กล่าวถึงกว้าง ๆ ไม่ได้เจาะจง
วันนี้ (14 ต.ค. 68) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีดำ อ.1729/2562 ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นจำเลยในข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 นพ.ระวี แถลงข่าวการเข้าร่วมสังกัดกลุ่ม 11 พรรคการเมืองที่แสดงเจตนาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดย นพ.ระวี กล่าวทำนองว่า การต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้ อาจมองได้ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายที่เอาสถาบันฯ กับฝ่ายไม่เอาสถาบันฯ ซึ่งสมาชิกพรรคมีมติให้เลือกข้างที่รักษาสถาบันเท่านั้น พรรคพลังธรรมใหม่ จึงต้องประกาศจุดยืนตามเสียงข้างมากของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และถ้อยคำอื่น ๆ
การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ สมาชิกพรรค และพรรคการเมืองอื่นรวม 7 พรรค ซึ่งเรียกตัวเองว่า ‘ฝ่ายประชาธิปไตย’ ที่เป็นแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงว่าเป็นฝ่ายไม่เคารพเทิดทูนสถาบันฯ ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง นพ.ระวี เนื่องจากจำเลยกล่าวข้อความดังกล่าวเพื่อชี้แจงให้ทราบถึงเหตุผลการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีความเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ และแสดงจุดยืนว่าสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่จะปกป้องและรักษาสถาบันฯ โดยเป็นกล่าวข้อความในลักษณะกว้าง ๆ ไม่ได้ระบุชื่อถึงโจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จากคำเบิกความของพยานและหลักฐานระบุว่า ที่จำเลยกระทำ จำเลยกล่าวถึงกว้าง ๆ โดยไม่ได้ระบุถึงชื่อตัวบุคคล หรือโจทก์ และการจับมือในครั้งนั้นเป็นการจับขั้วของพรรคการเมืองต่าง ๆ ไม่ได้กล่าวว่าโจทก์ และโจมตีพรรคการเมืองของโจทก์ว่าเป็นฝ่ายไม่เอาสถาบันฯ เป็นความเข้าใจของโจทก์แต่เพียงเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการหมิ่นประมาท อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น เห็นพ้องพิพากษายืน ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น
นพ.ระวี เปิดเผยภายหลังว่า สมาชิกของพรรคพลังธรรมใหม่ส่วนมากยืนอยู่ข้างฝั่งปกป้องสถาบันฯ จึงไปอยู่ฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ในคำฟ้องระบุว่า มีการแสดงความคิดเห็นว่าในกลุ่ม 7 พรรคที่อยู่ฝ่ายค้านคือพรรคการเมืองที่ไม่เอาสถาบันฯ เป็นข้อกล่าวหา แต่เราไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น ศาลได้พิพากษาแล้วว่าเราไม่ได้โจมตีพรรคเสรีรวมไทย ถือว่าจบไป และคงไม่ฟ้องกลับ รอแต่ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะยื่นฎีกาหรือไม่












