POLITICS

‘ทวี’ หนุนร่างแก้ไข รธน. ทั้ง 3 ฉบับ มองรัฐบาลนี้บุญหล่นทับ สนิท สว. ลั่นรัฐบาลหน้าต้องอยู่ไม่นาน ร่าง รธน. เสร็จควรยุบสภาทันที

วันนี้ (14 ต.ค. 68) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระเรื่องด่วน พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชน, พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายสนับสนุนทั้ง 3 ร่างเพื่อเปิดประตูสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้ยืนยันหลักพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย รัฐสภามีอำนาจริเริ่มเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีประชาธิปไตยโดยตรง ทำประชามติสอบถามเจ้าของอำนาจอธิปไตยโดยตรง ซึ่งปกติจะต้องเป็นคำถามที่ไม่ซับซ้อนหรือเป็นประเด็นคำถามที่ไม่ควรให้เกิดความสับสน ซึ่งยังมีความกังวลว่าจะมีการใช้คำถามทำประชามติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคง ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน

ขณะที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุด พรรคประชาชนที่เป็นพรรคอันดับ 1 ไม่ได้เป็นรัฐบาล กลับเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 2 ที่ได้เป็นรัฐบาล เกิดวิกฤตที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ มีคำถามแต่ร้อยคำตอบ เรามีนายกฯ มาแล้วสามคน 2 คนแรกถูก สว. ยื่นร้องสอบคุณสมบัติต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก

ส่วนปรากฏการณ์ MOA เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยแบบพิลึก โดยฝ่ายค้านเสียงข้างมากมีเจตนาขอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันบุญหล่นทับได้เป็นนายกฯ รัฐบาลนี้จึงเป็นรัฐบาลภายใต้อาณัติมอบหมาย เนื่องจากมีคนเข้าใจว่ารัฐบาลนี้สนิทกับ สว. จำนวน 138 คน ซึ่งการสนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญจะต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 หรือ 66 คน

8 ปีที่ผ่านมา รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีโครงสร้างมากเกินไป โดยเฉพาะรัฐอิสระที่เรียกว่า วุฒิสภา องค์กรอิสระ และตุลาการที่สูงเกินไปจนสามารถชี้ชะตากรรมของพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมา ส่วนที่น้อยเกินไปคืออำนาจของประชาชนและอำนาจของพรรคการเมือง รัฐบาลเสียงข้างมากถูกจำกัดไม่สามารถที่จะผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนได้ ส่วนที่ไม่มีเลยคือ กลไกการตรวจสอบกองทัพ องค์กรอิสระ หรือการปฏิรูปศาล ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การทำให้ประเทศอยู่ภายใต้กติกาที่ไม่สมดุลระหว่างอำนาจของประชาชนกับอำนาจชนชั้นนำ ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าการเมืองการปกครองเป็นเรื่องของชนชั้นนำและองค์กรอิสระไม่ใช่เรื่องของประชาชน วันเลือกตั้งเสียงของประชาชนกลับไม่มีความหมาย เกิดความเหลื่อมล้ำคุณภาพชีวิต สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งเกิดความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ระหว่างเมืองกับชนบท ดังนั้นเราต้องคืนความสมดุลให้กับประชาชน

พ.ต.อ. ทวี ยังกล่าวถึงเหตุผลที่คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมา เพราะห่วงว่าจะได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง ทั้งเรื่องศาสนา การศึกษา สาธารณสุข การเกษตร การปกครองส่วนท้องถิ่น ระบบเศรษฐกิจ และการเมืองการปกครอง ยกตัวอย่างผลกระทบด้านการศึกษา ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และ 2550 เขียนไว้ว่าบุคคลย่อมมีสิทธิ์เสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปี ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่พบว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดไว้ว่ารัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา ไม่น้อยกว่า 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงจบภาคบังคับ ทำให้สิทธิ์ไม่เสมอกัน ไม่ทั่วถึง ทำให้มีเยาวชนเข้าไม่ถึงระบบการศึกษา และเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษาราว 2.2 ล้าน

ส่วนความเหลื่อมล้ำทางด้านเกษตร รัฐธรรมนูญฉบับก่อนระบุว่าจะอุ้มชูเกษตรกร ผลผลิตจะขายในราคาสูง แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาตรา 73 ให้เกษตรกรไปขายในตลาด ซึ่งยิ่งถูกยิ่งดี ที่ซ้ำร้ายเจ็บปวดที่สุดคือ เกษตรกรไม่มีที่ทำกินจำนวนมาก ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อต่อเกษตรกรเหล่านี้ มีการทวงคืนผืนป่ากว่า 40,000 คดี หรือ 10,000 ชุมชน ขณะที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ มีเรื่องวินัยการเงินการคลังและยุทธศาสตร์ชาติ มีการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นงบการลงทุนน้อยลงมีระบบเสือนอนกินหรือสัมปทาน

พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่าอดีตเป็นบทเรียน แต่ปัจจุบันและอนาคตเป็นความรับผิดชอบของเรา เราเดินทางมาถึงการทำประชามติที่จะสอบถามประชาชน ซึ่งจะต้องพิจารณาทั้ง 3 ร่างเพื่อไม่ให้ขัดกับคำวินิจฉัยของศาล ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และทำให้เจ้าของอำนาจอธิปไตยได้รู้วิธีการและเนื้อหา สำคัญที่สุดคณะกรรมาธิการที่ตั้งควรใช้เวลาไม่เกิน 45 วัน ซึ่งสามารถทำร่างประชามติ ครั้งที่ 1 และ 2 รวมกัน เพื่อถามประชาชนได้

วันนี้เราต้องการรัฐธรรมนูญที่ดีไม่ใช่ลอกเลียนเอาจากต่างประเทศมา แต่รัฐธรรมนูญที่ดีต้องสามารถตอบสนองบริบทของคนไทยและสามารถตอบรับความเป็นสากลได้ รัฐธรรมนูญที่ดีจะต้องมีการแบ่งปันทรัพยากร ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดินให้กับประชาชน โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาเราไม่ได้พูดเรื่องเศรษฐกิจ วันนี้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเรายังไม่ได้ร่างแล้วเรากำลังจะร่าง รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดจึงยังไม่ได้เกิดแต่กำลังจะเกิด จะเกิดได้อยู่ที่พวกเราที่จะเปิดประตูเชื่อมต่อให้ประชาชนร่วมกันแสดงความเห็น วาระการเลือกตั้งที่จะมีหลังจากนี้ 4 เดือนจะได้สมาชิกเข้ามา รัฐบาลชุดหน้าก็ไม่ควรอยู่นาน เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็ควรมีการยุบสภา เพื่อให้ใช้รัฐธรรมนูญใหม่ที่เราเรียกร้องและโหยหามานาน

Related Posts

Send this to a friend