‘ชูศักดิ์’ กังวลแก้ รธน. ไม่ทันใน 4 เดือน ชูร่าง ‘เพื่อไทย’ ให้รัฐสภามีอำนาจชี้ขาดรับร่างฉบับสุดท้าย
วันนี้ (14 ต.ค. 68) ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายชี้แจงหลักการของร่างที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย พร้อมแสดงความกังวลต่อกรอบเวลาการดำเนินการที่จำกัดเพียง 4 เดือนก่อนยุบสภา ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่สูงและยังไม่แน่นอนว่าจะสำเร็จหรือไม่
นายชูศักดิ์กล่าวว่า การผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นเงื่อนไขสำคัญที่เกิดจากบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคการเมือง ซึ่งทำให้ต้องลดอายุของสภาผู้แทนราษฎรลง และผูกมัดกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยังไม่เห็นหน้าตา หากกระบวนการจัดทำไม่แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน ร่างรัฐธรรมนูญก็จะตกไปพร้อมกับการยุบสภา
สำหรับร่างของพรรคเพื่อไทย มีจุดเด่นสำคัญคือการให้อำนาจสูงสุดอยู่ที่รัฐสภา โดยภายหลังจากที่สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นแล้ว จะต้องนำร่างดังกล่าวกลับมาให้ที่ประชุมรัฐสภาให้ความเห็นชอบหรือแก้ไขเพิ่มเติมได้อีกครั้ง หากรัฐสภาไม่เห็นชอบ ร่างนั้นก็จะตกไป ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการอำนาจของรัฐสภาตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนประเด็นการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 นายชูศักดิ์ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีเจตนาแก้ไข แต่เหตุผลที่ไม่ได้เขียนห้ามไว้ในร่างแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ เนื่องจากมาตรา 256 เดิมมีบทบัญญัติคุ้มครองรูปแบบการปกครองอยู่แล้ว และการเขียนห้ามอาจขัดแย้งกับมาตรา 256(8) ที่เปิดช่องให้แก้ไขได้หากมีการทำประชามติ อีกทั้งในอดีตหมวด 1 ก็เคยมีการแก้ไขมาแล้วในรัฐธรรมนูญปี 2560












