POLITICS

‘อนุชา’ มอง ‘โน้ส อุดม’ วิจารณ์ได้ แต่เกินเลยไปไม่เหมาะสม

‘อนุชา’ ปัดตอบการปรับ ครม. ชี้เป็นอำนาจนายกฯ มอง ‘โน้ส อุดม’ วิจารณ์ได้ แต่เกินเลยไปบ้าง ไม่เหมาะสม เพราะศิลปินเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด

วันนี้ (14 ต.ค. 65) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีการปรับคณะรัฐมนตรีในสัดสวนของพรรคพลังประชารัฐ แทนที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โดยระบุว่า ในเรื่องของการปรับ ครม. ทั้ง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นโควต้าของพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพรรค

ในส่วนของการเปิดประชุมสมัยวิสามัญของพรรคฝ่ายค้านในช่วงเวลาที่เหลือ เกี่ยวกับการพิจารณาความรุนแรงที่จังหวัดหนองบัวลำภู นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว หากจะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ซึ่งการจะเปิดประชุมนั้นก็จะอยู่ที่ประธานสภามากกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้ตั้งคณะกรรมการเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้แล้ว และเป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับกรณีของ นายอุดม แต้พานิช หรือ โน้ส อุดม ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บนเวที เดี่ยวไมโครโฟน 13 นายอนุชา ระบุว่า เป็นธรรมดาในเรื่องความคิดเห็นทางการเมืองในระบบประชาธิปไตย ถ้าหากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีอคติ หรือพูดเอาสนุก เพราะศิลปินเป็นเหมือนเซเลป ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมติดตามให้ความสนใจ อีกทั้งแต่เดิมทีศิลปินไม่ออกมาพูดเรื่องการเมือง เพราะเป็นผู้ทรงอิทธิพลเรื่องความคิด จึงต้องไปพิจารณาว่าอะไรเกิดขึ้นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่ อุดม แต้พานิช ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้นมองว่าเหมาะสมหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ถ้าความคิดเห็นของทุกคนมีเจตนาบริสุทธิ์ ก็เป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย และตนเองมองว่ามีหลายส่วนที่ไม่เหมาะสม ในฐานะที่เรามีรัฐบาล หรือผู้นำ บางอย่างที่พูดมีความเกินเลยไปบ้าง แม้ ‘อุดม’ จะเคยวิพากษ์วิจารณ์ในหลายรัฐบาล แต่เราเห็นได้ว่ามันต่างกัน การวิจารณ์มีความแตกต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเหมือน

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมีการดำเนินคดีหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า ตนเองยังไม่ทราบในรายละเอียด ซึ่ง นายก ฯ ได้ดูการแสดงครั้งนั้นอย่างคร่าวๆ เห็นเพียงการวิเคราะห์ของสังคมที่แบ่งเป็นฝักฝ่าย ซึ่งมีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

“ศิลปิน เมื่อก่อนไม่มีใครมาทำแบบนี้ เพราะเป็นผู้ที่ทำให้สังคมได้คิดเห็นไปในมุมมองได้หลายอย่าง เพราะมีชื่อเสียงที่ต้องระมัดระวัง” อนุชา กล่าว

Related Posts

Send this to a friend