‘สุริยะ’ ยัน รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกเส้นทางภายใน 2 ปี
วันนี้ (14 ก.ย. 66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายด้านการบริหารของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมแก่หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม
นายสุริยะ เน้นย้ำแนวนโยบายหลักของกระทรวงคมนาคมคือ กระทรวงคมนาคมต้องเป็นกระทรวงคมนาคมยุคใหม่ที่สร้างความสุขให้กับประชาชน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ ความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่จะต้องขับเคลื่อนให้ได้ในมิติเศรษฐกิจกระทรวงคมนาคมเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยการบูรณาการระบบถนนระบบรางระบบน้ำทางเดินทางน้ำและอากาศให้มีประสิทธิภาพเชื่อมโยงโดยการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลลงทุนไปแล้วให้เกิดศักยภาพมากที่สุด รวมถึงต้องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้มีการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ทางการขนส่งทั่วไปโดยเฉพาะการขนส่งในท่าอากาศยานจะใช้รถไฟฟ้า
โดยนายสุริยะ ได้แบ่งงานดูแลรับผิดชอบให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการ ทั้ง 2 คนแล้ว ดังนี้ นางมนพร เจริญศรี กำกับดูแล 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมเจ้าท่า ,การท่าเรือแห่งประเทศไทย. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ, สถาบันการบินพลเรือน และ บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กำกับดูแล 8 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก, กรมการขนส่งทางราง, บริษัท ขนส่ง จำกัด, การรถไฟแห่งประเทศไทย, บริษัท SRT Assets จำกัด, บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ส่วนหน่วยงานที่เหลืออีก 9 หน่วยงาน จำกำกับดูแลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ส่วนประเด็นเรื่องค่าบริการรถไฟฟ้า 20 บาทนั้น นายสุริยะ จะเป็นคนดูแล โดยหลังจากนี้จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น รฟม. รฟท. จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งโดยตนเองเป็นประธาน เพื่อให้นโยบายนี้สำเร็จตามที่พรรคเพื่อไทยได้มีการหาเสียงไว้ ในสายสีแดงและสีม่วงจะทำให้ได้ภายใน 3 เดือน โดยในตอนนี้ได้ประสานไปยังรฟม. แล้ว ซึ่งผู้ว่าฯ รฟม.รับจะนำไปหารือในบอร์ด รฟม. หากบอร์ด รฟม.อนุมัติก็สามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนบอร์ด รฟท.มีกรอบเรื่องหนี้สาธารณะอยู่ จะนำเรื่องส่ง ครม.อนุมัติก็สามารถดำเนินการได้ทันที
นายสุริยะ ระบุถึงกรณีรถไฟฟ้าที่ดำเนินการโดยเอกชน จะเข้าสู่กระบวนการเจรจา เพราะให้สัมปทานไปไม่เท่ากัน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี สามารถปรับราคาค่าโดยสารเป็น 20 บาท เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไปทั้งระบบรถไฟฟ้า ครอบคลุมทุกเส้นทาง โดยไม่รวมรถไฟฟ้า Airport Raillink
โดยคาดว่า การปรับราคาในระยะแรกของรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง แม้จะทำให้รายได้ของหน่วยงานลดลงแต่จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน คาดการณ์ว่าสายสีแดงจะลดลงปีละ 80 ล้านบาท และสายสีม่วงลดลงปีละ 56 ล้านบาท รวมรายได้ลด 136 ล้านบาทต่อปี จะสามารถดึงดูดผู้ใช้บริการได้มากขึ้น คาดการณ์ไว้อย่างน้อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี คาดการณ์ว่าผ่านไป 2 ปีจะมีรายได้กลับมาเท่าเดิม และหลังจากปีที่ 2 เป็นต้นไป รายได้ของทั้ง 2 หน่วยงานจะเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่มีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม
