POLITICS

‘ณัฐพล’ จี้ ปรับลดงบซื้อบัตรประชาชน ชี้ อาจเหลือส่วนต่างปีละ 30 – 40 ล้าน

‘ณัฐพล’ จี้ กรมการปกครองปรับลดงบซื้อบัตรประชาชน แนะ ควรปรับลดงบลงมาตามราคาต้นทุน ชี้ อาจเหลือส่วนต่างปีละ 30 – 40 ล้านบาท ไปใช้ในแผนงานอื่น

วันนี้ (14 ส.ค. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระ 2 – 3 ในมาตรา 20 กระทรวงมหาดไทย

นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน ร่วมอภิปรายว่า บัตรประชาชน โดยปกติจะประกอบด้วยบัตรสีฟ้าที่มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 16.74 บาท และวัสดุต้นทุนอยู่ที่ 19.67 บาท เฉลี่ยรวม 36.41 บาทต่อบัตร ซึ่งคำของบประมาณที่ขอมาจากกรมการปกครองนั้น ค่าเฉลี่ยงบประมาณการซื้อบัตรและการซื้อวัสดุเคลือบทั้งปี 68 และ 69 เท่ากัน ต่างกันแค่จำนวน ประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อให้สต๊อกไม่ขาด และไม่มีปัญหาในแต่ละปี โดยปัญหาเมื่อเปรียบเทียบดูย้อนหลังแล้ว จะพบว่าในปี 66 และปี 67 ซื้อได้ในราคา 13 – 14 บาทต่อบัตร

ส่วนในปี 68 มีการซื้อบัตรประชาชนไป 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกเป็นการซื้ออย่างเร่งด่วนด้วยวิธีการคัดเลือกซึ่งซื้อในราคา 18.50 ต่อบัตร ส่วนล็อตที่สองซื้อได้ในราคา 15.55 บาทต่อบัตร ไม่ได้เป็นไปตามคำขอ เมื่อข้อมูลปรากฏเช่นนี้ ตนเองได้พูดคุยกับกรมการปกครองในชั้นกรรมาธิการว่าหากซื้อจริงไม่ถึงจำนวนนี้ ขอปรับลดยอดที่ขอมาได้หรือไม่ ให้ใกล้เคียงกับยอดที่มีการจัดซื้อจริง

ทั้งนี้ ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 6 ปีใน 8 ล็อตของการซื้อบัตรประชาชนจะอยู่ที่ 16.74 บาทต่อบัตรโดยกรมการปกครองก็ทราบ แต่ยังยืนยันที่จะขอซื้อบัตรประชาชนในใบละ 19.581 บาทเท่าเดิม โดยให้เหตุผลว่าต้องเผื่อไว้เผื่อต้นทุนจะเปลี่ยนแปลง แต่หากดูย้อนหลัง 3 – 4 ปีต้นทุนไม่ได้แพงขึ้น

นายณัฐพล กล่าวอีกว่า กรมการปกครองของบซื้อบัตรประชาชนเกินจริง ถ้า e-bidding ไม่มีปัญหาคงซื้อได้ถูกกว่านี้ ถ้ายอมปรับลดตามจริงจะเหลือเงินปีละ 30 – 40 ล้านบาท และมองว่าถ้าทำได้จริง ราคาก็จะไม่ถึงเท่าตามที่ขอมา จึงขอฝากไปยังกระทรวงมหาดไทย ว่าให้ติดตามการปรับกรอบเพดานงบประมาณลงมาของบัตรประชาชน ให้เป็นไปตามที่ซื้อจริง และอาจจะนำเงินส่วนต่างไปใส่ในแผนงานอื่นของกระทรวงมหาดไทยที่จำเป็นกว่านี้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องคงกรอบเงินเดิมไว้

Related Posts

Send this to a friend