POLITICS

อนุทิน’ เผยกรณี ‘กนกวรรณ’ ต้องดูที่หลักฐาน มองเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค ยันไม่ปกป้อง

‘อนุทิน’ เผยกรณี ‘กนกวรรณ’ ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐาน อย่าใช้แต่คำพูด มองเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค ยันไม่ปกป้องหากถึงขั้นตอนของศาลรับฟ้อง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (14 มิ.ย. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยกรณี นางกนกวรรณ วิลาวรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ในคดีรุกป่าเขาใหญ่ ว่า วันนี้นางกนกวรรณ จะเดินทางเข้าร่วมประชุม คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เพราะตราบใดที่ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ก็ยังต้องมาประชุม

จากการโทรไปสอบถาม นางกนกวรรณ หากมั่นใจ ว่าไม่ได้ทำความผิด จะออกมาพูดว่าไม่ทำผิดไม่ได้ มันไม่เพียงพอ ขอให้เอาหลักฐานเอกสารที่มี ออกมาแสดงให้เห็น ถ้าต้องไปถึงกระบวนการก็ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานเท่านั้น จะพิสูจน์ด้วยความรู้สึกหรือคำพูดไม่ได้ ซึ่งตนก็ได้ให้กำลังใจกัน ในฐานะที่เป็นลูกพรรค และคนที่รู้จักกันมานาน

ส่วนกรณี ที่นางกนกวรรณ ยังไม่ได้ออกมาแถลงข่าว ชี้แจงกับสื่อมวลชน นายอนุทิน กล่าวว่า เดี๋ยวนางกนกวรรณ ก็มาชี้แจงเอง คงอยู่ระหว่างการเรียบเรียงข้อมูล เตรียมข้อมูลต่างๆ ออกมา ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อไปถึงขั้นตอนใด สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น ก็ต้องเกิด

เมื่อถามว่าทางพรรคจะไม่กดดันให้นางวิลาวัลย์ ลาออกจากตำแหน่งใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย ตอนนี้ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ก็จะรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อ ยังไม่ได้เห็นสำนวน ไม่เคยทราบที่มาที่ไปของเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค ดังนั้นจึงขอย้ำอีกทีว่า ข้อหาที่นางกนกวรรณถูก กล่าวหา ไม่ใช่ข้อหาที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือความผิดของพรรคการเมือง ตัวพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

เมื่อถามว่า เรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคทางอ้อม นายอนุทิน กล่าวว่า นางกนกวรรณ รับผิดชอบส่วนตัวบุคคลไปแล้ว และแน่นอนว่า เอาเรื่องกระแสสังคมมาพิจารณา ถ้าผิดก็ไม่รอใบเสร็จ ขอพูดแบบนี้ดีกว่า

เมื่อถามว่า จะรู้ได้เมื่อไหร่หรือต้องรอการพิจารณาจากศาลอย่างเดียวใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวจะรวดเร็วอย่างแน่นอน เพราะกระบวนการมันเดินแล้ว ตอนนี้ ป.ป.ช. ชี้มูลส่งให้อัยการสั่งฟ้อง ถ้าศาลประทับรับฟ้อง โดยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า บุคคลผู้นั้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถ้าถึงจุดนั้นพวกเรา ก็จะเริ่มได้เห็นสำนวน ได้เห็นคำร้อง ข้อกล่าวหาต่างๆ ทางพรรคก็จะมาหารือกัน ในพรรคมีเนติบัณฑิตไทย นักกฎหมายตั้งกี่คน ก็มาดูสำนวนแล้วหารือกัน ถ้าดูแล้วเจตนาเป็นอย่างไรให้ออก หากดูแล้วว่าผิดตนก็จะจัดการเอง

เมื่อถามว่ามีการวางตัวบุคคลอื่นเป็นรัฐมนตรี แทนนางกนกวรรณแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะมีการปรับ ครม.หรือเปล่า เพราะสองตำแหน่งที่ว่างอยู่ นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ปรับ

เมื่อถามว่า ป.ป.ช. จะมีการชี้มูลเพิ่มเติม ที่ดินข้างเคียงของนางกนกวรรณ พรรคจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคไม่ต้องไปตรวจสอบ ข้อมูลต่างๆ อยู่ที่เจ้าหน้าที่ นี่เป็นการกระทำผิดหรือไม่ผิดยังไม่รู้ เป็นการกระทำส่วนตัว ที่ส่วนตัวต้องรับผิดชอบ ถึงต้องให้รัฐมนตรีแต่ละท่าน ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินตอนเข้ารับตำแหน่งและตอนออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของรัฐมนตรี ไม่ใช่ทรัพย์สินของพรรคการเมืองที่เขาสังกัดอยู่ ดังนั้นการแจ้งทรัพย์สินถ้ามีความผิดพลาด มีเจตนาที่แจงแล้วบกพร่อง ตัวพูดแซงทรัพย์สินก็ต้องรับผิดชอบไปตามกฎหมาย ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่ากังวลว่า จะกระทบต่อพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าหน้าที่ของนางกนกวรรณ ได้ทำในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผลักดันเรื่อง การยกเลิกค้ำประกัน กยศ. การปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ทำส่งเสริม การศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ได้ดูแลในหน้าที่รัฐมนตรี ก็ทำได้ไม่มีอะไรบกพร่อง เป็นรัฐมนตรีที่ค่อนข้างจะมีผลงาน แต่เรื่องส่วนตัวก็อย่างที่เรียน ก็ตัวใครตัวมัน ทุกคนรับผิดชอบตัวเอง เราไม่ได้มีหุ้นในนั้น สมมุติว่าหากจะมีรายได้จากตรงนั้น ก็ไม่มีรัฐมนตรีอื่นไปร่วมแชร์การปันผลด้วย ต้องมีการขีดเส้นกัน และตอนที่นางกนกวรรณ มารับตำแหน่ง ที่ได้รับการคัดเลือก ก็มาจากความเหมาะสมในหน้าที่การงาน เราไม่รู้หรอกว่า เขาเป็นเจ้าของอะไร หรือมีทรัพย์สินจากไหน แต่พอเกิดว่ามันผิด นางสาวกนกวรรณไม่ใช่ว่าไม่แจ้งทรัพย์สิน ได้แจ้งไปแล้ว ป.ป.ช.เข้าไปดูทรัพย์สินนั้น มีความไม่ชอบก็เอามาสอบสวน ถ้านางกนกวรรณ ซุกซ่อนทรัพย์สินก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

Related Posts

Send this to a friend