POLITICS

‘อนุทิน’ ลั่น​ ลงบัญชี หลังถูกตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ​ ซัดการเมืองอยู่เบื้องหลัง​ 500 ล้าน%

‘อนุทิน’ ลั่น​ ลงบัญชี – ไม่มีลืม​ หลังถูกตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ​ ปากช่อง​ ซัดการเมืองอยู่เบื้องหลัง​ 500ล้าน% เผย​ นายกฯ ถาม แต่อธิบายแล้ว​

วันนี้ (14 ก.พ. 68) นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการถูกตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ​ อำเภอปากช่อง​ จังหวัดนครราชสีมา หลังเกิดเหตุสภาฯ ล่ม​ มองว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่​ ว่า​ ถ้าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง​ แล้วมาหาเรื่องกันในเรื่องส่วนตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนเองไม่มีความกังวลหรือเดือดร้อนใด ๆ เนื่องจากเป็นคนที่มีความระวังมากที่สุดอยู่แล้ว เวลาครอบครัวจะไปลงทุนอะไรดูหมด พร้อมยกตัวอย่างว่า การซื้อที่ดินก็ซื้อโฉนดลูกเดียวไม่เคยมัดจำ เพราะกลัวหากมัดจำแล้วเจ้าของที่ดินจะไปถูกรถชนตาย แล้วจะไปเอาเงินที่ไหนคืน ฉะนั้นถ้าเราพร้อม​ เราก็ไปลงทุนตรงโน้น​ ตรงนี้ ไม่มีปัญหา​ พร้อมระบุว่า ที่ดินที่เขาพยายามจะเอามาเล่นกันก็ซื้อโฉนด สมมุติถ้าออกโฉนดไม่ถูกก็ไม่ใช่ตนเป็นคนออก เปลี่ยนมือมา 6​- 7 มือแล้ว หากออกโฉนดไม่ถูกก็ไปว่ากัน หากจะเพิกถอนก็ต้องจ่ายเงินให้ตนมาก็แค่นั้นเอง ก่อนย้ำว่าหากไม่ถูกตนก็ไม่อยู่หรอก

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นเรื่องการเมืองจะทำให้เกิดความบาดหมางกันหรือไม่ ในการร่วมรัฐบาลนาย​อนุทิน​ ระบุว่า ถ้ามันทำกันขนาดนี้ ถ้าบอกขอบคุณนะที่ทำให้ ก็คงใช่ที่ ลงบัญชีไว้

เมื่อถามว่าที่บอกว่ามีการลงบัญชีไว้ คือการรอเอาคืนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่รู้เมื่อไหร่​ ดอกทบต้น​

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าแล้วดอกเบี้ยแพงหรือไม่นายอนุทินถึงกับหัวเราะ พร้อมกล่าวว่าเดี๋ยวนี้ดอกถูก

เมื่อถามต่อว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ น.ค. 3 และสุจริตใช่หรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า สุจริตคือ ไปซื้อจากชาวบ้าน เขามีโฉนด มีเอกสารสิทธิ์ และมีการไปโอนที่กรมที่ดิน เก็บค่าธรรมเนียมการโอน ออกโฉนด โดยต้องมีการพิมพ์ชื่อเจ้าของใหม่เข้าไป มีการประทับว่าใครเป็นเจ้าพนักงานผู้โอน ฉะนั้นเป็นการซื้อขายโดยบริสุทธิ์ ก่อนระบุว่าโฉนดใบนั้นมีคนบอกว่า 60 ปีที่แล้ว มีการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องไปตามกับคนที่ออกเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ถ้าตามได้แล้วเขาบอกว่าผิด กรมที่ดินก็ต้องจ่ายค่าเสียหายมาในราคาตลาด ถ้าหาราคาตลาดไม่ได้ก็ต้องใช้ราคาประเมิน เพราะเดี๋ยวนี้ที่ดินแถวนั้น ซื้อขายเปลี่ยนมือกันทุกวันอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้า ซึ่งมีช่วงหนึ่งระบุว่า ​”หน้าตัวเมีย” หมายถึงนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ ใช่หรือไม่​ นายอนุทิน ได้แต่เพียงหัวเราะในลำคอ​ หึหึ แต่ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันนายอนุทิน​ยังยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงกรณีปัญหาที่ดินดังกล่าว ซึ่งตนเองได้อธิบายไปทั้งหมดแล้ว

ส่วนจะต้องเคลียร์ใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ เราไม่รู้ใครทำ ไปถามใครก็ไม่มีใครรับหรอก

เมื่อถามว่าแม้ว่าจะยืนยันว่าการได้มาซึ่งที่ดินนั้นถูกต้องแต่ก็มีคนพยายามจะนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น นายอนุทิน​ ระบุว่า มันเป็นตั้งแต่สมัยที่พ่อของตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ซึ่งมีคณะกรรมาธิการไปตรวจหมดแล้ว ไม่รู้กี่รอบ พอมาเป็นรัฐบาลเมื่อใดก็มีคนไปตรวจทุกที

เมื่อถามว่าคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าจะทำงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุทิน​ ย้อนถามกลับว่าทำไมถึงมาเปิดตอนนี้ อย่างที่บอกไม่เป็นไรหากเปิดมาแล้วก็ทำให้จบ คนที่เพิกถอนคือกรมที่ดิน คิดว่าคงไม่มีใครมากลั่นแกล้งตนในกระทรวงมหาดไทย

ส่วนอยากจะฝากอะไรไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุทิน​ ย้อนถามกลับว่า ทำไมต้องบอก

ส่วนกรณีที่นายธนดล​ ต้องการให้กรมที่ดินลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกันนั้น จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะสั่งลอย ๆ อย่างนี้ไม่ได้หรอก ต้องทำให้เป็นทางการ อยู่ดี ๆ จะไปสั่งผ่านทีวีไม่ได้ ต้องทำเรื่องมา ก่อนเปิดเผยว่าอธิบดีกรมที่ดินกำลังรอตนอยู่ เพราะคนเพิกถอนคือคนที่ออกโฉนด โอนโฉนด ตีความโฉนด​ คือกรมที่ดิน ซึ่งกรมที่ดิน จะต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ขนาดรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังโดนแบบนี้ ประชาชนทั่วไปคนธรรมดา จะไปสู้กับเขาได้อย่างไร​ พร้อมย้ำว่านี่คือสิ่งที่ตนเองเคยให้นโยบายกับกรมที่ดินเอาไว้ ว่าต่อไปนี้หากโฉนดใครผิดหรือถูก หากออกโดยกรมที่ดินหรือคู่กรณีคือกรมที่ดิน ถ้าใครจะสู้ก็ต้องสู้กับกรมที่ดิน เพราะคนที่ถือสิทธิ์ เขาเสียค่าธรรมเนียมไปแล้ว เมื่อเก็บค่าธรรมเนียมไปแล้วก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของเขา

เมื่อถามย้ำว่าเป็นใบสั่งทางการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า 500 ล้านเปอร์เซ็นต์​ ไม่ใช่ 100​ เปอร์เซ็นต์

เมื่อถามต่อว่าเห็นว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ครอบครองหลายคน นายอนุทินกล่าวว่า ก็ว่ากันไป ถ้าเกิดใครไปได้ที่ดินมาโดยที่ไม่มีโฉนด แล้วไปออกโฉนดหลังได้ที่ดินเมื่อปีที่แล้วอันนี้สิถึงเข้าข่ายขี้โกง แต่ถ้าไปซื้อโฉนดจากตาสีตาสายตามียายมา เขามีโฉนดอยู่แล้วส่วนใหญ่ที่ซื้อบิดามารดาเขาตายหมดแล้ว ลูกหลานขายแบ่งเงินกัน

เมื่อถามต่อว่าที่ดินดังกล่าวเหมือนจะมีกลุ่มโบนันซ่า​อยู่ด้วย จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมดหรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า ใครจะตรวจสอบก็ต้องไปตั้งเรื่องมา​ จึงจะมีการตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะตนไม่ให้มีการปักธง ไม่มีบอกว่าต้องเอาตรงนี้ให้ได้ ถูกเป็นผิดไม่มีมีแต่ความยุติธรรม แต่ต้องปกป้องผู้ที่ซื้อมาโดยสุจริต

เมื่อถามว่า รู้สึกเหมือนว่า ขณะนี้มีขบวนการลดอำนาจต่อรองของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยต่อรอง เมื่อถามอีกว่า มีการไปยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบที่มา สว.ในข้อหาอั้งยี่ รวมถึงนายอนุทินมาถูกตรวจสอบเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟของครอบครัวในช่วงนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า การไปตั้งข้อหาตรงนั้นไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่า สว.เป็นเครือข่ายสีน้ำเงิน จึงต้องการลดอำนาจต่อรองลง นายอนุทิน กล่าวว่า ใครทำอะไรก็ต้องรับจากผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่หมูใช่หรือไม่ อนุทินยิ้มและตอบว่า “ภูมิใจไทย หนู” พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่อึดอัด เพราะทำงานกับนายกฯ และให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรีทั้งหลาย ไม่ได้ไปเป็นลูกน้องเขา แต่เป็นลูกน้องนายกฯ ในความเป็นรัฐบาล

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat