รัฐสภา ถกแก้ข้อบังคับประชุมสภาฯ เปิดช่อง ปชช.ร่วมวง กมธ.แก้ รธน.
รัฐสภา ถกแก้ข้อบังคับประชุมสภาฯ สส.รัฐบาล-สว.ค้านเปิดช่องประชาชนร่วมวงนั่ง กมธ.แก้ รธน.
วันนี้ (14 ม.ค. 68) การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นผู้เสนอ
นายพริษฐ์ ได้เสนอสาระสำคัญของร่างข้อบังคับดังกล่าว ซึ่งมี 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ คือ 1. เปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมต่อกระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภาในชั้นคณะกรรมาธิการ โดยเสนอปลดล็อกและเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง หรือ สว.สามารถเสนอชื่อบุคคลทั่วไปเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ
เหตุผลสำคัญเพื่อให้กระบวนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญมีความรอบคอบรอบด้านมากขึ้น รวมถึงให้บุคคล ภาคประชาสังคมที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์กับการแก้รัฐธรรมนูญที่มากกว่าสมาชิกรัฐสภา แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาเข้ามามีส่วนร่วม
2.ลดการใช้กระดาษ เพิ่มการใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์สำหรับงานธุรการของรัฐสภา
3.ยกเลิกบทบัญญัติข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ไม่มีความจำเป็นเกี่ยวกับหมวดการปฏิรูปประเทศ และหมวดที่เกี่ยวการเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ภายหลังได้เปิดอภิปรายอย่างกว้าง โดยมี สว.และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไขในประเด็นการกำหนดให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงติดใจในประเด็นที่ตัดลักษณะของการพ้นตำแหน่งคณะกรรมาธิการด้วย
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. อภิปรายว่าการแก้ไขข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ดูเหมือนเป็นการปูทางไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนเองติดใจในประเด็นการแก้ไขคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) โดยร่างแก้ไขนั้นได้ตัดเกณฑ์ที่คณะกรรมาธิการจะพ้นจากตำแหน่งใน (4) ว่าด้วยการขาดสมาชิกภาพแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกออก เท่ากับว่าจะให้คนที่ต้องคดีเข้ามาเป็นคณะกรรมาธิการ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ ควรให้สมาชิกรัฐสภาดำรงตำแหน่ง สมาชิกรัฐสภาที่มีรวม 700 คนประกอบด้วย สส. 500 คน สว.200 คน ส่วนคณะกรรมาธิการที่จะตั้งมีจำนวน 45 คน ดังนั้นเมื่อคณะกรรมาธิการพ้นตำแหน่งเพราะขาดจากสมาชิกภาพ พรรคการเมืองควรตั้งบุคคลตามสัดส่วนของพรรคคมาทดแทน แต่หากยังให้คนที่ขาดสมาชิกภาพเป็นคณะกรรมาธิการได้ ถือว่าดูแคลนกันไปหน่อย
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่าในพรรคการเมืองมีผู้มีความรู้ความสามารถเป็นจำนวนมาก แต่การเสนอแบบนี้คงหลับตาดูแล้วเห็นว่าใครขาดสมาชิกภาพในอนาคตหรือไม่ จึงขอให้ทบทวน คณะกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญมีความสำคัญ หากตัดคุณสมบัติที่ขาดคุณสมาชิกภาพออกไปจะเห็นใครมาทำหน้าที่ อ้าปากเห็นไปถึงริดสีดวงทวาร
