‘พล.ต.อ.เพิ่มพูน‘ ยันรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ทุกช่วงวัย

‘พล.ต.อ.เพิ่มพูน‘ ยันรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ทุกช่วงวัย วางเป้าหมาย “เรียนดี มีความสุข” ยอมรับมีปัญหามาจากรัฐบาลที่แล้ว งบลงทุนน้อยเป็นความท้าทาย

วันนี้ (5 ม.ค. 66) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงข้อซักถามต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในวาระการอภิปรายร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยระบุว่า ตนได้ทราบความห่วงใยและความต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งพัฒนาปรับปรุง ทั้งเรื่องการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก หนี้สินครู การพัฒนากำลังคนสายอาชีวศึกษา การสร้างโอกาสและการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การสนับสนุนงบประมาณด้านการศึกษา การสนับสนุนค่าใช้จ่ายโครงการอาหารกลางวัน

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า จากที่สมาชิกได้อภิปรายนำเสนอข้อมูลเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหาร แต่ต้องขอขอบคุณในประเด็นความห่วงใยและข้อแนะนำ

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า งบประมาณที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรรในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลง แต่อย่างไรก็ตามในปีนี้รัฐบาลได้ปรับเพิ่มงบประมาณขึ้นมาอีก 0.31% ซึ่งในโครงสร้างงบประมาณ พบว่า งบประมาณส่วนใหญ่เป็นงบบุคลากรและงบเงินอุดหนุน และมีงบค่าใช้จ่ายอื่นและงบลงทุนเป็นบางส่วน อยู่ในระดับน้อย ซึ่งจากที่ได้มีสมาชิกอภิปรายก็คงเห็นว่ามันเป็นปัญหา แต่ตนและทีมงานเชื่อว่าสิ่งนี้คือความท้าทาย

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวถึงความท้าทายของการศึกษาในปัจจุบันที่ต้องดำเนินงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา, ผลคะแนนสอบที่ลดลง เช่น คะแนน Pisa2022 หรือทักษะความสามารถด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ, ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กมีจำนวนมากกว่า 51.15% , ปัญหาการมีครูไม่ครบชั้น, ปัญหาสวัสดิภาพและสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา , ปัญหาเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาจากสภาวะเศรษฐกิจ และที่สำคัญที่สุดคือความคาดหวังของสังคมต่อการศึกษาไทย ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่รัฐบาลนำมาเป็นแนวคิดในการกำหนดงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไข พัฒนาคุณภาพการศึกษาภายใต้ข้อจำกัด

กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามสร้างโอกาสความเท่าเทียมทางการศึกษา โดยนำเทคโนโลยีอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เข้ามาช่วยในการลดข้อจำกัดด้านงบประมาณ เพื่อให้ผู้เรียนที่มีความแตกต่างทางด้านรายได้หรือสถานะอยู่ห่างไกล ได้เข้าถึงการศึกษา ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องการศึกษาทางไกลมาแก้ปัญหาครูไม่ครบชั้น

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดนโยบาย “เรียนดีมีความสุข” ให้สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา จัดทำแพลตฟอร์มการเรียนรู้ผสมผสาน เกิดการเรียนการสอนแบบไฮบริด เพื่อขยายการเรียนรู้ให้คนทุกช่วงวัยมีโอกาสในการศึกษา เข้าถึงเนื้อหาสาระที่มีคุณภาพ และพัฒนาการศึกษาผ่านระบบการสะสมหน่วยกิตการเรียนรู้ และเตรียมนำระบบสอบเทียบกลับมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ที่ศึกษานอกระบบสามารถกลับมาสอบเทียบได้

นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการยังจัดให้มีหลักสูตรระยะสั้นเพื่อ Upskill, Reskill และ Newskill เพื่อสร้างทักษะอาชีพทักษะชีวิต สามารถขอรับรองมาตรฐานวิชาชีพได้ในระหว่างที่ศึกษา เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้เรียนมีรายได้ระหว่างการเรียนควบคู่ไปกับการทำงาน

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่านโยบายการศึกษาที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาและกระทรวงศึกษาธิการได้รับมากำหนดนโยบายเรียนดีมีความสุข จะได้รับความเสมอภาคทางการศึกษาแก่ผู้เรียนทุกช่วงวัย กระทรวงศึกษาธิการมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้นโยบายดังกล่าวสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จึงหวังว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านจะสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567