POLITICS

‘สีหศักดิ์’ เชื่อ ‘ทรัมป์’ ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ชายแดนที่แท้จริง เชื่อ ได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน

‘สีหศักดิ์’ เชื่อ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ชายแดนที่แท้จริง หลังโพสต์บอกทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นอุบัติเหตุ เชื่อ ได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน ยัน ไทยพร้อมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน 16 ธ.ค.นี้ ชี้ กัมพูชาเลื่อนเปิดด่านเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม

วันนี้ (13 ธ.ค. 68) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ค่ำวานนี้ (12 ธ.ค. 68) ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยากขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีความหวังดี และอยากเห็นสันติภาพ ซึ่งประเทศไทยก็อยากเห็นสันติภาพเช่นเดียวกัน แต่เรามองว่าสันติภาพต้องมาจากทั้งสองฝ่าย

ส่วนที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ส่วนตัวแล้วมีความเป็นห่วงหลายประเด็นที่อยู่ในข้อความ เนื่องจากฝ่ายไทยคิดว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง และอาจได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน

ประเด็นแรก ฝ่ายไทยรู้สึกไม่สบายใจที่มีข้อความว่า เหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบกับทุ่นระเบิด และได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอุบัติเหตุ เพราะเรื่องนี้ชัดเจนและเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เกิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิด ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่รวมถึงเจ็ดครั้ง

ขณะเดียวกัน ทุ่นระเบิด PMN-2 ได้รับการยืนยันจากคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของฝ่ายไทย (AOT) เรียบร้อยแล้วว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ และวันนี้ฝ่ายกัมพูชายังยิงจรวด BM-21 เข้ามายังพื้นที่พลเรือนในจังหวัดศรีสะเกษ ฉะนั้นเป็นที่ยืนยันแน่นอนแล้วว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการกระทำที่จงใจของฝ่ายกัมพูชา

ประเด็นที่สอง กรณีข้อความระบุว่าการโต้ตอบของฝ่ายไทยมีความรุนแรง ขอชี้แจงว่าการโต้ตอบของฝ่ายไทยได้สัดส่วนกับการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ไม่ได้เกินกว่าเหตุ รู้สึกผิดหวังกับข้อความดังกล่าว เพราะไทย-สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรระหว่างกัน ต่อสู้เพื่อเผชิญกับความท้าทายด้านมั่นคงร่วมกันในอดีต จึงยังถือว่าไทยและสหรัฐฯ ยังมีความสัมพันธ์บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันในด้านความมั่นคงอยู่

ส่วนที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอให้มีการตรวจสอบเหตุปะทะโดยวิธีทางดาวเทียม โดยประเทศไทยไม่มีปัญหา และขอให้ตรวจสอบทุ่นระเบิดด้วย ตอนที่เดินทางไปร่วมประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาก็ได้เรียกร้องให้มีคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม

นายสีหศักดิ์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ภัยคุกคามตามแนวชายแดนไม่ได้มาจากปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชาอย่างเดียว แต่มาในรูปแบบของสแกมด้วย มีผู้ได้รับผลกระทบมากมาย เป็นเรื่องที่ประชาคมโลกต้องร่วมกันปราบปราม ส่วนฝ่ายไทยจะดำเนินการเต็มที่ด้วยเช่นกัน โดยวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต

อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่พูดถึงเรื่องการเจรจาการค้าที่เกี่ยวกับภาษี เพราะ โดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่าการเจรจาในระดับผู้ปฏิบัติขอให้ดำเนินต่อไป จึงเป็นไปตามท่าทีของเราที่ย้ำมาโดยตลอดว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ควรนำมาโยงกับเรื่องการค้า หรือภาษี

สำหรับคนไทย 6,000-7,000 คน ที่ติดอยู่ที่ด่านปอยเปต ปัญหาคือฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมเปิดด่าน ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความขัดแย้งที่ประสบอยู่ แต่เป็นเรื่องของมนุษยธรรม จึงเป็นที่น่าเสียใจ เดิมคุยกันแล้วว่าจะเปิดด่านช่วง 13.00-16.00 น. แต่ฝ่ายกัมพูชาขอเลื่อนไปก่อน ขณะเดียวกัน ในโพสต์ของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา ก็กล่าวว่าได้ระงับการเดินทางทั้งหมดที่ข้ามเขตแดน จึงชัดเจนว่าเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและหลักสิทธิมนุษยธรรมภายใต้กติการะหว่างประเทศ

สำหรับการหยุดยิง ต้องถามฝ่ายกัมพูชาว่าพร้อมจะหยุดยิงเมื่อไหร่ เราจะพูดเรื่องการหยุดยิงได้อย่างไรในเมื่อฝ่ายกัมพูชายังไม่หยุด เป็นเรื่องเดิม ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา คือพูดอย่างทำอย่าง เบี่ยงเบนจากประเด็นปัญหาแท้จริง สร้างสถานการณ์ สร้างเรื่องราว เพื่อสร้างความได้เปรียบในเวทีระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่า วันนี้ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน บอกว่าได้ขอให้ AOT ลงพื้นที่ไปยังชายแดน และแสดงผลการตรวจสอบต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ไทยพร้อมที่จะไปเข้าร่วมการประชุมนั้นหรือไม่ และคาดหวังอะไรจากการหารือดังกล่าว

นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เราให้ความร่วมมือกับ AOT เสมอมา โดยเฉพาะในเหตุที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของการแสวงหาข้อเท็จจริง ไทยไม่มีปัญหาใด ๆ ส่วนการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่บอกว่าพร้อมที่จะเข้าร่วม พร้อมที่จะอธิบายจุดยืนของเรา และมุมมองของเราว่าเกิดอะไรขึ้น

นายสีหศักดิ์ ระบุว่า ตามความเข้าใจของตนเอง จีนได้แสดงความกังวล และหวังว่าจะมีการหาทางออกโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นท่าทีที่จีนใช้เสมอมา แต่หากถามว่าจีนได้เสนอข้อริเริ่มใด ๆ หรือไม่ ยังไม่มี หากเพื่อนคนใดที่ต้องการช่วย เราไม่มีปัญหาใด ๆ แต่นี่คือสิ่งที่ไทย และกัมพูชาต้องดำเนินการแก้ไขปัญหากันเอง ถ้าจะมีการหยุดยิงเกิดขึ้น ก็ต้องให้กองทัพของทั้งสองประเทศหารือกันถึงรายละเอียด

อย่างไรก็ตาม คงเป็นความคาดหวังของประธานาธิบดีสหรัฐหลังได้ทุ่มเทกับข้อตกลงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย คงอยากเห็นการหยุดยิง แต่การหยุดยิงต้องมาจากความพร้อมทั้งสองฝ่าย และการพูดคุยทางโทรศัพท์ยังไม่มีการพูดเรื่องการหยุดยิง

Related Posts

Send this to a friend