ประธานสภา กทม. แจง กรณีปรับลดงบประมาณสำนักงานเขตจตุจักร
เผย สภาฯ ทำหน้าที่แค่เสนอแนะ ไม่มีอำนาจปรับเรื่องงบเขต ชี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ย้ำชัด คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
วันนี้ (13 ก.ย.65) นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีงบแปรญัตติของสำนักงานเขตจตุจักร ที่นาย อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยข้อมูลว่าสภากรุงเทพมหานครปรับลดงบประมาณสำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และฝ่ายบริหารนำไปปรับเป็นงบจัดโครงการสัมมนาแทน ทั้งที่เรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องเร่งด่วน
นายวิรัตน์ ระบุว่า ในนามของสภากรุงเทพมหานคร ขอชี้แจงว่า เรื่องรายการเดินทางศึกษาดูงานของสำนักงานเขต เป็นการศึกษาดูงานเพื่อเพิ่มความรู้ให้กับบุคลากรของหน่วยงาน ซึ่งมีการขอจัดสรรงบประมาณมาตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอร่างข้อบัญญัติงบประมาณปี 2566 แล้ว ในส่วนของงบแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งหมดก็ขอมาด้วยเช่นกัน ซึ่งทางคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้มีการพิจารณาปรับลดงบประมาณที่หน่วยงานขอจัดสรรเข้ามาให้สอดคล้องกับการใช้งบประมาณ และการดำเนินการของหน่วยงานตามความเหมาะสม
อีกทั้งในการพิจารณาที่ผ่านมาเป็นการปรับลดงบในส่วนอื่น ในส่วนของงบประมาณการจัดสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และทักษะให้กับข้าราชการ ลูกจ้าง คณะกรรมการฯ ไม่ได้มีการปรับลดแต่อย่างใด รวมถึงฝ่ายบริหารได้มีการขอแปรญัตติงบประมาณ และเสนอโครงการเพิ่มเติมอื่น ๆ เข้ามาอีก อาทิ การจัดหาเครื่องแบบ การปรับเพิ่มฐานเงินเดือน เพื่อเป็นการเพิ่มขวัญกําลังใจให้กับบุคลากรของกรุงเทพมหานคร
“สภาไม่สามารถพิจารณาให้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมได้ เพียงแต่เสนอแนะให้มีการพิจารณาการป้องกันน้ำท่วมในจุดต่าง ๆ ที่เกิดปัญหาในขณะนี้ ส่วนการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณหรือการวางระบบการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ที่สำคัญคือฝ่ายบริหารเป็นผู้พิจารณาเงินงบประมาณในการแปรญัตติกลับเข้ามาหลังจากที่คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาปรับลดงบประมาณไปแล้ว ขอยืนยันว่าสมาชิกสภากรุงเทพมหานครไม่สามารถพิจารณาเสนอให้มีการจัดสรรงบประมาณหรือเรียกว่าแปรญัตติกลับเข้ามาได้ รวมทั้งขอทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า สภากรุงเทพมหานครทำหน้าที่พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามที่ฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานครเสนอเข้ามา และได้พิจารณาปรับลดให้เหมาะสม และคุ้มค่า โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และของภาครัฐเป็นหลัก” นายวิรัตน์กล่าว












