POLITICS

ยิ่งลักษณ์ห่วงเกษตรกรผู้ปลูกลำไยไทย

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความห่วงใยเกษตรกรไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือ พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐเข้าไปแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำอย่างจริงจัง และยั่งยืน

อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความพร้อมภาพว่า “วันนี้ไปซื้อลำไยจากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ดูไบ ทำให้คิดถึงเมืองไทยว่า แม้ว่าปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยอากาศดี ช่วงต้นปีอากาศเย็น ส่งผลให้ลำไยมีผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนถึง 20%  ซึ่งลำไยเป็นผลไม้ส่งออกที่มีความต้องการสูง แต่ปรากฎว่าช่องทางการจำหน่ายยังจำกัดเพราะผลกระทบของโรคระบาด ทำให้ดิฉันเป็นห่วงชีวิตพี่น้องเกษตรกรโดยเฉพาะทางภาคเหนือที่ปลูกลำไยกันเป็นจำนวนมากที่ต้องลำบากเพราะขาดทุนจากผลผลิตที่ล้นตลาด

ส่วนกรณีล่าสุดที่จีนสั่งระงับการนำเข้าลำไยจากประเทศไทยของหลายบริษัทนั้น ดิฉันเห็นว่ากระทรวงพาณิชย์ต้องเจรจาให้ทางการจีนผ่อนปรนให้กับไทยบ้างเพราะจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของลำไยไทยและเป็นการสั่งอย่างกะทันหัน ซึ่งขณะนี้ลำไยอยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวและเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ต้องส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ในมุมกลับกันไทยก็รับผลไม้จีนเข้ามาจำหน่ายในประเทศเป็นจำนวนมากเช่นกันน่าจะสามารถเจรจาผ่อนปรนกันได้บ้างค่ะ

อย่างไรก็ตามดิฉันเรียกร้องให้ภาครัฐเข้าไปแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำอย่างจริงจังและยั่งยืนค่ะ เพราะแม้จะทำโครงการแลกเปลี่ยนผลิตผลการเกษตรระหว่างจังหวัด แต่ทำได้จำนวนจำกัด ไม่สามารถช่วยเกษตรกรในวงกว้างได้ รัฐอาจอุดหนุนราคาบ้าง แต่ต้องดูแลแก้ปัญหาองค์รวมในเรื่องผลผลิตลำไยล้นตลาดและราคาตกต่ำ ด้วยการขอความร่วมมือภาคเอกชนให้ช่วยซื้อลำไยสด หรือโรงงานรับซื้อลำไยเพื่ออบแห้งและบรรจุลำไยกระป๋องเพื่อถนอมอาหาร รอส่งออกต่างประเทศ

ไม่เพียงแค่ผลิตผลลำไยเท่านั้น  แต่รัฐบาลต้องดูแลพืชผลเกษตรทั้งหมด และควรเตรียมมาตรการรองรับเพื่อจะได้ไม่เจอวังวนแบบนี้ทุกปี  รวมทั้งต้องประสานกับทั้งโรงงานแปรรูป ไปจนถึงสหกรณ์ ตลาดกลาง ห้างโมเดิร์นเทรดในการช่วยกระจายสินค้าอย่างเป็นระบบค่ะ  ภาครัฐต้องมีการกำหนดกลยุทธ์ที่สร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของสินค้าเกษตร มีการรวบรวมข้อมูลสินค้าเกษตรและผลไม้ที่จะออกสู่ตลาดตลอดปีเพื่อบริหารจัดการไม่ให้เกิดปัญหาล้นตลาดและราคาตกต่ำ

ในระยะยาวแล้ว ดิฉันเสนอให้ลองทบทวนแนวทางเกษตรโซนนิ่งที่ดิฉันได้เริ่มไว้สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะจะเป็นการจัดระเบียบพื้นที่การเกษตรที่เหมาะสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ยึดหลักการตลาดนำการผลิตพร้อมกับยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรไทย ลดต้นทุนการเพาะปลูก เพราะปัจจัยการผลิตถูกใช้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการของพืชแต่ละชนิดค่ะ

อยากขอเชิญชวนภาคเอกชน บริษัทต่างๆ หรือใครที่ยังพอมีกำลังซื้อช่วยอุดหนุนลำไยและพืชผลทางการเกษตรอื่นที่กำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำเพื่อช่วยกันประคับประคองให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกันนะคะ”

Related Posts

Send this to a friend