‘ฐากร’ ย้ำ ‘ไทยสร้างไทย’ โหวตสนับสนุน ‘พิธา’

‘ฐากร’ ย้ำ ‘ไทยสร้างไทย’ โหวตสนับสนุน ‘พิธา’ ยืนยัน ไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 ใน MOU ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

วันนี้ (13 ก.ค. 66) ที่อาคารรัฐสภา นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ เป็นตัวแทนพรรคไทยสร้างไทยในการอภิปราย

นายฐากร กล่าวว่าตนเองขอสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยจะอธิบายในส่วนของการพาดพิงเรื่องการทำข้อตกลงร่วมกันของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการนัดเจรจาหารือในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีแนวทางดำเนินการร่วมกัน นำมาสู่การทำข้อตกลงร่วมกันหรือ การเซ็นเอ็มโอยู ในวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

นายฐากร ระบุว่า การเจรจากันที่ผ่านมา พรรคไทยสร้างไทย ยืนยันตลอดระยะเวลาว่าเราไม่เคยมีการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 มีแต่การเจรจาเกี่ยวกับแนวทาง 23 ข้อที่ระบุเอาไว้ในเอ็มโอยู เพื่อพัฒนา ปรับปรุงเศรษฐกิจ และฟื้นฟูให้เดินหน้าได้เท่านั้น ดังนั้น จึงมีการร่างคำปรารภ เป็นหลักการอันสำคัญยิ่งในบันทึกข้อตกลง ซึ่งมีใจความว่า

“เราทำบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งรัฐบาล ทำขึ้นเพื่อเป็นพื้นฐานในการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติพรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ โดยทุกพรรคเห็นร่วมกันกับภารกิจของรัฐบาล ที่จะไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐ การปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ของพระมหากษัตริย์”

นายฐากร ยืนยันว่า ในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้งหมด ถ้าเกิดว่าพูดสิ่งใดไม่ตรงกับความรู้สึก หรือไม่ตรงกับบันทึกข้อตกลงดังกล่าว สามารถโต้แย้งได้ เพราะว่าอยู่ในที่ประชุมทั้งหมด โดยในการตกลงร่วมกัน ไม่มีการพูดถึงมาตรา 112 แต่อย่างใด

“จุดยืนของพรรคไทยสร้างไทย เราเลือกพรรคที่เป็นพรรคลำดับที่หนึ่ง ที่ชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่าชื่อผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกของพรรคก้าวไกล คือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หากมีการเสนอชื่ออื่น เราก็จะเลือกพรรคอันดับที่หนึ่ง ที่มีการเสนอชื่อเช่นเดิม และขอยืนยันในระบอบประชาธิปไตย”