‘ชูวิทย์’ ยื่น ป.ป.ช.ฟัน ‘ศักดิ์สยาม’ ปมซุกหุ้น จ่อยื่น กกต. ยุบพรรคภูมิใจไทย
‘ชูวิทย์’ ยื่น ป.ป.ช. ฟัน ‘ศักดิ์สยาม’ ปมซุกหุ้นบริษัท พร้อมเผาแบงค์กงเต็ก สาปแช่งคนรับเงินทอนจากการทุจริตโครงการรัฐ จ่อยื่น กกต. ยุบพรรคภูมิใจไทย
วันนี้ (13 มี.ค. 66) เวลา 10:30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้ายื่นหนังสือถึง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้พิจารณาตรวจสอบ และดำเนินการทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่
- กล่าวโทษนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีการตั้งนอมินีถือหุ้นแทนในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และนำไปรับงานกระทรวงคมนาคม มูลค่าหลักพันล้านบาท
- ยื่นร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ นาย ส. ข้าราชการใน ป.ป.ช.โดยนายชูวิทย์อ้างว่าเป็นคนรับหน้าที่จัดการคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง
- กล่าวโทษ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 กรณีปล่อยปละละเลยให้ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ใน ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กว่า 700 ไร่
- ยื่นร้องเรียนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา157 กรณีที่ดินเขากระโดง ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสนามฟุตบอล บ้าน และบริษัทเอกชน ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบที่ จังหวัดบุรีรัมย์
จากนั้นนายชูวิทย์ ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการนำแบงค์ แบงค์กงเต็ก ธนบัตรปลอม กระดาษเงิน และกระดาษทอง มาเผา พร้อมสาบแช่งคนที่รับเงินจากทุจริตคอรัปชั่นโครงการรัฐ
ส่วนกรณีที่ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ท้าให้นายชูวิทย์เปิดหลักฐานเงินทอนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม นายชูวิทย์กล่าวว่า จะมาถามหากับตนทำไม ให้ไปถามกับ ป.ป.ช. แทน เพราะหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่ ป.ป.ช. พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่เล่นตามเกมการเมือง
เมื่อถามว่า กรณีที่นายชูวิทย์ออกมาแฉทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย จะนำไปสู่การยื่นยุบพรรคหรือไม่ นายชูวิทย์ ตอบว่า ตนเองจะต้องไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวน และยุบพรรค อย่างแน่นอน ทั้งเรื่องของการตั้งนอมินี ให้มารับงานของกระทรวงฯ และการที่บริษัทดังกล่าวบริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย
นายชูวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า จะดำเนินการยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยก่อนการเลือกตั้ง เพราะหากเลือกตั้งผ่านไป เมื่อพรรคถูกยุบภายหลังได้ ส.ส.แล้ว ส.ส.เหล่านี้จะมีเอกสิทธิ์ในการย้ายพรรคไปสังกัดพรรคอื่นได้ ตนจึงจะยื่นไปถึง กกต.เป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤษภาคมนี้
เมื่อถามว่าจะมีการยื่นก่อนการยุบสภาหรือไม่ นายชูวิทย์ ระบุว่า “ผมจะยื่นด่วนที่สุด”
นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึง นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่า จะจับตาดูนายเศรษฐา ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่านายเศรษฐามีเบื้องหลังอยู่เรื่องเดียว เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยนายชูวิทย์อ้างว่าได้เก็บเอกสารหลักฐานที่สำคัญที่สุดชุดหนึ่งไว้ เรียกว่าเตรียมไว้แบล็คเมล์นายเศรษฐาก็ว่าได้ จากนี้ จะคอยจับตานายเศรษฐา ทวีสินอย่างใกล้ชิด หากมีพฤติกรรมที่บิดพริ้ว มาเป็นนักการเมืองแล้วไม่มีอุดมการณ์ เมื่อถึงตอนนั้น ตนจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้สังคมได้รับทราบ
ขณะที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่าจะรับเรื่องร้องเรียนเอาไว้ และนำเข้าสู่กระบวนการตามอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ซึ่งจะนำไปพิจารณาว่าแต่ละเรื่องเป็นอย่างไร