นายกฯ กำชับ หน่วยงานเกี่ยวข้องเฝ้าระวังมิจฉาชีพฉวยโอกาสช่วงโควิดระบาดหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน
โฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ” กำชับ ดีอีเอส ปอท. สธ. เฝ้าระวังมิจฉาชีพฉวยโอกาสใช้ประโยชน์ช่วงการแพร่ระบาดโควิด–19 หลอกลวงประชาชน /ฉ้อโกง ย้ำมีความผิดทางกฎหมายและจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (13 ม.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนจากการเผชิญกับสถานการณ์โควิด – 19 ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ ปากท้องพี่น้องประชาชน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งผลักดันมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งการตรึงราคาพลังงาน การเพิ่มช่องจำหน่ายสินค้าราคาถูกธงฟ้า รวมทั้งการให้มีจัดจำหน่ายชุดตรวจ ATK สำหรับประชาชน ในราคาเหมาะสมอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท เฝ้าระวังการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์และ SMS ต่างๆ ซึ่งมิจฉาชีพในปัจจุบัน จะมีรูปแบบหลอกลวงใหม่ๆ เพื่อฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด โควิด -19
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด – 19 ที่ส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ เปิดโอกาสให้เกิดมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ จำนวนมาก ล่าสุดจากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ประกาศจ้างเด็กเอ็นฯ โดยต้องเป็นผู้ที่ติดเชื้อโควิดเท่านั้น และต้องมีผลการตรวจ ATK ยืนยันผล เพื่อเรียกร้องเอาเงินประกันภัยจากบริษัทประกันภัย การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการฉ้อฉลประกันภัยและอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป การกระทำดังกล่าวนอกจากจะมีความผิดต่อกฎหมายแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันด้วย
สำหรับรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 13 มกราคม 2565 พบ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มวันนี้ 8,167 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 8,101 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 66 ราย ผู้ป่วยสะสม 77,022 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 3,845 ราย หายป่วยสะสม 39,486 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 70,591 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 14 ราย
