‘ณัฐวัฒน์’ เตือนคำพูดนายกฯ ปม “สันติภาพจบแล้ว” อาจกระทบอธิปไตยชาติ

‘ณัฐวัฒน์’ พรรคไทยก้าวใหม่ เตือนคำพูดนายกฯ ปม “สันติภาพจบแล้ว” อาจกระทบอธิปไตยชาติ แนะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ–เร่งใช้กลไกการทูตระหว่างประเทศ

วันนี้ (12 พ.ย. 68) นายณัฐวัฒน์ บูรณะกนก รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ เห็นด้วยกับความเด็ดขาดของกองทัพ แต่ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ประกาศจากยอดภูมะเขือว่า การที่เราจะเดินไปสู่สันติภาพ “จบลงแล้ว“ กองทัพ พร้อม เพราะประเทศชาติไม่ได้อะไรจากสิ่งที่นายกฯ พูดเลย ซึ่งสันติภาพกับอธิปไตยไม่ใช่เรื่องที่แก้ด้วยคำพูดหรือการรบเพียงอย่างเดียว ซึ่งการลงนามสันติภาพที่มาเลเซีย ต้องถูกปฏิบัติตามอย่างระมัดระวัง รัฐบาลควรออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการทันที และอธิบายแผนการ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนก่อนที่จะตัดสินใจเดินหน้าในทางที่อาจสร้างผลเสียระยะยาวต่อประเทศชาติ

การลงนามสันติภาพที่มาเลเซีย เป็นข้อตกลงที่มีเงื่อนไขชัดเจน หากจะ ยกเลิกหรือไม่ปฏิบัติตาม จะต้องคำนึงถึงผลกระทบในหลายมิติ ได้แก่

1.ผลกระทบทางการทูต การไม่รักษาข้อตกลงอาจทำให้ความเชื่อมั่นระหว่างประเทศสั่นคลอน และเสียเปรียบทางการทูตในระยะยาว

2.ผลกระทบจากปฏิบัติการทางทหารที่ล่าช้า ซึ่งหากการตอบโต้จะเกิดขึ้นโดยไม่วางแผนรัดกุม อาจนำไปสู่เหตุการณ์ซ้ำรอยหรือสร้างความเสี่ยงต่อทหารและประชาชน

3.ผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนด้านความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาล ควรทำทันทีในเชิงรุก ไม่ใช่เชิงตั้งรับ ในความเห็นส่วนตัว คือ 1.ยกระดับการร้องเรียนอย่างเป็นทางการ เช่น การยื่นหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปยัง สหรัฐอเมริกา และยื่นเข้าสู่กลไก ASEAN และ UN หากจำเป็น เพื่อให้เกิดแรงกดดันเชิงระหว่างประเทศ และไม่ปล่อยให้ไทยถูกกระทำฝ่ายเดียว

2.ใช้ Public Diplomacy ให้โลกได้ยินเสียงไทย โดยส่งตัวแทนรัฐบาล ออกไปสื่อสารในสื่อต่างประเทศ เช่น BBC CNN NBC หรือ Nikkei Asia เป็นต้น เพื่อชี้แจงว่าไทยไม่ได้เป็นผู้เริ่มให้เกิดปะทะ แต่กำลังถูกกัมพูชาละเมิดข้อตกลง และคุกคามอธิปไตย ซึ่งการสื่อสารในระดับโลกคือการสร้าง “เกราะทางการทูต” ที่สำคัญที่สุด

3.ออกแถลงการณ์เป็นทางการในนามรัฐบาลไม่ใช่เป็นเพียงคำสัมภาษณ์แบบนีั แต่เป็น Official Statement ที่มีน้ำหนักทางนโยบายและการทูต

4.ประเมินผลกระทบให้ครบก่อนเคลื่อนกำลังทหาร อันได้แก่ ความมั่นคงประชาชนชายแดน ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ผลทางการทูต และความปลอดภัยของประชาชน