POLITICS

‘ไชยา’ ลั่น กรณีขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อควายยิง จนท.เสียชีวิต มีนักการเมืองเอี่ยวแน่​

โฆษกรัฐบาลควงไชยาแถลง หลังขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อปศุสัตว์ผิดกฎหมายยิงเจ้าหน้าที่ดับขณะตรวจค้นคาห้องเย็น ลั่น​ เอี่ยวนักการเมืองแน่​ มอง​ เป็นขบวนการระดับชาติ ทำลายระบบเศรษฐกิจเสียหาย

นายชัย​ วัช​รงค์​ โฆษก​ประจำ​สำนักนายก​รัฐมนตรี​ พร้อมด้วย นายไชยา​ พรหมา​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​เกษตร​และ​สหกรณ์​ แถลงข่าวถึงกรณี​การนำเข้าเนื้อปศุสัตว์​ผิดกฎหมาย​

นายชัยกล่าวว่า​ 1-2 วันนี้ มีการตรวจจับการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนรายใหญ่ จนกระทั่งวานนี้ นาย สราวุฒิ ประจวง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์เพชรบูรณ์ กรมปศุสัตว์​ ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ตรวจสอบห้องเย็น หรือสถานที่เก็บเนื้อสัตว์และซากสัตว์ โดยนโยบายการปราบปรามเนื้อเถื่อน เป็นนโยบายที่รัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังมากโดย นายเศรษฐา​ ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ร้อยเอกธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำชับอย่างจริงจังโดยมอบหมายให้นายไชยา​ ดำเนินการจับตาเรื่องนี้ เมื่ิ่อเกิดเหตุอุกอาจขนาดนี้ จึงจำเป็นต้องชี้แจง​ เพราะมองว่ากระบวนการดังกล่าวมีอิทธิฤทธิ์มาก และต่อให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เต็มร้อย ก็ต้องให้ทุกฝ่ายมาร่วมมือกัน

นายชัย ย้ำว่า​ รัฐบาลได้ตระหนักและเป็นนโยบายหลักที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เอง​ได้ทำอย่างจริงจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ได้ยึดถือว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญ และให้การสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและกรมปศุสัตว์อย่างดีที่สุด เพื่อทำให้เป้าหมายในการทำสงครามปราบปรามกับเนื้อเถื่อนที่เป็นภัยกับความมั่นคง​ ทางเศรษฐกิจ​และสุขอนามัยของประชาชน​ ได้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ทุกประการ

นายไชยา​ ระบุว่า​ สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมาย มีการดำเนินการเป็นขั้นตอนมาโดยตลอด เช่น การทำลายตู้คอนเทนเนอร์ที่ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

โดยเมื่อวันที่ 10 ต.ค ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นายด่านกักกันสัตว์ จังหวัดเพชรบูรณ์ได้เข้าทำการตรวจค้นห้องเย็นที่จังหวัด เพชรบูรณ์ เกิดการปะทะกันกับผู้ประกอบการ​ จนกระทั่งใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และบาดเจ็บ ทั้งที่เป็นการทำหน้าที่​โดยสุจริต​ ต้องการที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและผลประโยชน์ของประชาชน และก่อนจะเข้าไปตรวจ มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะเข้าร่วมตรวจค้นอย่างเป็นทางการด้วย แต่ขณะที่เกิดเหตุตนได้รับรายงานว่ามีการเรียก เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเจรจาต่อรอง เนื่องจากผู้ประกอบการอาศัยอิทธิพลท้องถิ่นรู้จักมักคุ้นกับผู้มีอำนาจในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ไม่ใช่อิทธิพลท้องถิ่นธรรมดาแต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ

ดังนั้นการสูญเสียชีวิตบุคลากรที่สำคัญในขณะปฏิบัติหน้าที่ถือว่าเป็นสะท้อนให้เห็นว่าไม่เฉพาะอิทธิพลในท้องถิ่น แต่กระบวนการนำเข้าเนื้อเถื่อนมีการกระทำเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันมากมาย จะเห็นได้ว่ากระบวนการดังกล่าวไม่ใช่กระบวนการเล็กๆ​ แต่เป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศ มูลค่ากว่าแสนล้าน และส่วนตัวมองว่าน่าจะเชื่อมโยง กลับนักการเมืองระดับชาติแน่นอน

ซึ่งล่าสุด เมื่อเช้าได้รับรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่า มีตู้คอนเทนเนอร์ที่ตกค้างอยู่ที่แหลมฉบังอีกประมาณ 60 กว่าตู้ และกำลังเป็นคดีอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากยังไม่มีการส่งมอบ แล้ววันนี้ครบกำหนดให้เปิดตู้ และมีการร้องว่ากรมปศุสัตว์ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ และจะฟ้องร้องดำเนินคดีตามมาตรา 157 ซึ่งทำให้เห็นว่า การเปิดตู้มีความผิดปกติ ไม่โปร่งใส ไม่ถูกต้องของกระบวนการ

ทั้งนี้ นายไชยา​ ยืนยันว่าการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ไม่ได้ทำโดยพลการ มีการขอความร่วมมือจาก กรมศุลกากร​ และ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI แต่เมื่อเช้า หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องปฏิเสธ เปิดตู้ของกลางที่จับได้

แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวานนี้ จะมีการประสานงานขอความร่วมมือปราบปรามกระบวนการลักลอกนำเข้าเนื้อผิดกฎหมาย และจากนี้ไปจะคิกออฟสแกน เอกซเรย์ ห้องเย็นทั่วประเทศ

ทั้งนี้นายไชยา​ ยังกล่าวอีกว่า​ ตนจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบย้อนหลังการนำเข้า เนื้อปศุสัตว์ และกระบวนการที่เข้ามามีการสำแดงภาษีถูกต้องหรือไม่​ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความร่วมมือกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ให้มีการลักลอบเนื้อผิดกฎหมาย เข้มประเทศ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat