พล.อ.ประวิตร ยืนยันมีน้ำเพียงพอ น้ำประปาไม่ขาด ปีหน้าไม่แล้ง
พล.อ.ประวิตร เยี่ยมชมอ่างเก็บน้ำแม่สอดตอนล่าง ยันน้ำเพียงพอ ประปาไม่ขาด ปีหน้าไม่แล้ง เผยไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งเมียนมา - ชนกลุ่มน้อย ยึดสันติวิธีเจรจาได้ทั้งสองฝ่าย ไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย
วันนี้ (12 ก.ย. 65) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำแม่สอด ตอนล่าง ภายใต้การดำเนินการกรมชลประทาน และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. โดยพลเอกประวิตร ได้เดินชมอ่างเก็บน้ำ พร้อมสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำ โดยกล่าวว่าเห็นน้ำแบบนี้ไม่มีวันหมด
พลเอกประวิตร กล่าวขอบคุณกับประชาชน ที่มาต้อนรับตนและคณะในวันนี้ ก่อนที่จะปล่อยมุก “บ่ายแล้วก็ง่วงนอนหน่อยนะ” การมาตรวจราชการของตนในวันนี้ มาในพื้นที่จังหวัดตาก มาประชุมแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ก็มาอีกครั้ง ได้รับทราบข้อมูลและภาพรวมของทุกคน และแก้ไขที่ดินทำกินในทุกพื้นที่ รัฐบาลพยายามทุกอย่างในเรื่องที่ดินทำกินเรื่องน้ำ ที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนนั้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นซึ่งเป็นความต้องการของรัฐบาล
โดยพลเอกประวิตร ยังกล่าวอีกว่า ตนมาตรวจสถานการณ์ชายแดนและสถานการณ์น้ำ ซึ่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องสถานการณ์ชายแดนได้รับทราบถึงปัญหาต่างๆ ทางแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ทำไว้ได้ดี ไม่มีความขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อยหรือประเทศพม่า เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เพียงแต่รุกล้ำอธิปไตยเราก็จะต้องมีการเรียกร้องไป ทำอะไรข้ามมาในนี้ไม่ได้นะ อย่างนี้ใช่หรือไม่ เพราะเราเป็นประเทศสันติเราก็คุยกับเมียนมาได้ และคุยกับกลุ่มชนกลุ่มน้อยได้ แต่เราไม่เอาตัวไปเป็นคู่ขัดแย้ง
พร้อมบอกว่า พื้นที่จังหวัดตากเป็นพื้นที่ท้ายน้ำต้องเก็บน้ำเอาไว้ วันนี้เก็บในอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอดด้านใต้ได้ 4.4 ล้านลูกบาศก์เมตร และในอ่างด้านบนอีกประมาณ 5.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่สามารถมาเติมได้ตลอดเวลา ดังนั้นในเรื่องน้ำประปาไม่มีการขาด ขอให้ประชาชนรับทราบไว้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริหารจัดการน้ำอย่างมีระบบ ตนได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีการจัดสรรน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค และการเกษตร ตลอดฤดูกาลให้ได้ จะต้องไม่แล้ง
พร้อมกับถามว่าใคร มีอะไรจะพูด จะคุยกับตนหรือไม่ ซึ่งมีประชาชนรานหนึ่ง ลุกขึ้นถามเรื่องที่อยู่อาศัย พลเอกประวิตร บอกว่า ขณะนี้พยายามทำอยู่แล้ว พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องเขตป่าไม้ การเข้าทำเกษตรกรรมในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมากว่า 60 ปี พร้อมขอให้ส่งรายละเอียดมายัง ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ติดตามลงพื้นที่มาด้วย และจากนั้นได้มีการทักทาย ถ่ายรูป รับดอกกุหลาบจากประชาชนที่มาต้อนรับ