POLITICS

แบงค์รัฐ ขานรับมาตรการ กระทรวงการคลัง ตรึงดอกเบี้ยช่วยลูกค้า

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) , ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) , ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) หารือถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 0.75% ต่อปี มีผลเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2565 เป็นต้นไป

มีรายงานว่า รมว.การคลัง ได้สั่งการให้แต่ละสถาบันการเงิน ดูมาตรการช่วยเหลือลูกค้าโดย ธ.ก.ส. รับว่า จะเร่งบริหารจัดการหนี้ เติมสภาพคล่อง พัฒนาประสิทธิภาพลูกค้า ส่วนอัตราดอกเบี้ย ธ.ก.ส.จะช่วยตรึงออกไปให้นานที่สุด แม้จะมีการคาดการณ์ว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ในช่วงเดือนกันยายนนี้

ด้านธนาคารออมสิน ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือนและ 6 เดือน โดยปรับขึ้น 0.15% ส่วนเงินฝากประจำ 12 เดือน ปรับขึ้น 0.20% และเงินฝากประจำ 24 เดือน และ 36 เดือน ปรับขึ้น 0.30% เพื่อส่งเสริมการออม และให้ประชาชนได้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ในช่วงที่กำลังเริ่มกลับมามีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนลูกค้าสินเชื่อ ธนาคารออมสินมีมาตรการช่วยเหลือ ด้วยการยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ (MLR, MOR และ MRR) ไว้ให้นานที่สุด เพื่อชะลอผลกระทบต่อลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และกลุ่มเปราะบาง

ด้าน ธอส. ยืนยันตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุด อย่างน้อยถึงสิ้นปี 2565 ส่วน ธสน. พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุดเช่นกัน ในอัตรา Prime Rate 5.75% ต่อปี ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี ที่ต่ำที่สุดในระบบ

Related Posts

Send this to a friend