นายกฯ ชม ‘มาดามแป้ง‘ ยกระดับวงการฟุตบอล

นายกฯ ชม ‘มาดามแป้ง‘ ยกระดับวงการฟุตบอล เผย ภูมิใจ แม้ไทยไม่เข้ารอบ ไม่มีนักเตะโอนสัญชาติ แนะ ใช้โค้ชคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพ ย้ำ รัฐบาลหนุนเต็มที่ ให้ความสำคัญค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อม
วันนี้ (12 มิ.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.67) ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ไป 3 – 1 ประตู แต่ไม่เพียงพอให้ผ่านเข้ารอบต่อไป ว่า ตนเองขอพูดเรื่องนี้ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอชื่นชม นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ได้ยกระดับวงการฟุตบอลไทยขึ้นมาอีกระดับ อย่าไปดูแค่ผลการแข่งขัน เชื่อว่าทุกคนพอใจกับผลการแข่งขันเมื่อวานนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ผ่านเข้ารอบต่อไป แต่อยากให้ดูถึงเนื้อในว่า เราได้ยกระดับขึ้นมาหลายเรื่อง เช่น ชีวิตความเป็นอยู่ของนักเตะ รอยยิ้ม ความสบายใจ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหลาย เชื่อว่า นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า เรามีเวลาอีก 4 ปี ในการเตรียมตัว ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายหลักของทีมชาติไทย คือการไปฟุตบอลโลก ซึ่งช่วงเวลานี้เชื่อว่า เป็นช่วงเวลาที่ไทยต้องกลับมารีเซ็ทใหม่ เพราะนายกสมาคมฯ ก็ป้ายแดง แต่ทำมาดีแล้ว ซึ่งก็ต้องมานั่งดูว่ามีปัญหาอะไรที่เราต้องแก้ไข แต่ในฐานะคนไทย ตนเองมีความภาคภูมิใจที่ทีมชาติไทย เราไม่มีนักเตะโอนสัญชาติ เพราะขนาดประเทศจีนยังมีนักเตะโอนสัญชาติ ซึ่งไทยเราพึ่งคนไทยล้วน ๆ นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ
ส่วนเรื่องของหัวหน้าผู้ฝึกสอน หรือโค้ช นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเองอยากเห็นโค้ชชาวไทยได้แสดงฝีมือในเวทีโลก เพราะการได้คนไทยมาคุมทีมชาติถึงเรื่องที่ดี อย่างเช่นในสมัยก่อนยุคของ ซิโก้ – เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งก็มีแนวทางการเล่นฟุตบอลที่สนุก ถึงแม้จะได้แชมป์ถ้วยเล็กก็ตามที แต่ว่าคนไทยมีความสุข จึงอยากเสนอแนะในฐานะคนไทย ว่าลองใช้บริการโค้ชชาวไทยดูบ้าง ซึ่งตอนนี้ก็มีโค้ชคนไทยที่เข้าตาอยู่ เพราะเชื่อว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง และที่พูดเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะไทยไม่ได้เข้ารอบ แต่ได้พูดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะพูดที่ไหน เขียนคอลัมน์ที่ไหน ตนเองก็สนับสนุนให้ใช้โค้ชคนไทยโดยเสมอมา
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล วอลเลย์บอล มวยไทย เพราะเกมเมื่อวานนี้ ก็มีรัฐมนตรีไปร่วมรับชมหลายคน เชื่อว่า มวยไทย หรือ วันแชมป์เปียนชิพ วอลเลย์บอล หรือแม้กระทั่งกีฬาเล็ก ๆ ซึ่งได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ ที่ปรึกษานายกฯ ด้านกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่คอยให้การสนับสนุน
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญเรื่องของรางวัล ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าฝึกซ้อมที่ออกมาช้า หรือยังค้างจ่ายอยู่ แม้เป็นเรื่องรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ใกล้ถึงมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะฉะนั้น เรื่องของเบี้ยฝึกซ้อม ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และเงินรางวัลต้องชัดเจน
ส่วนเรื่องรากฐานความแข็งแกร่งของกีฬา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละสมาคมก็มีนโยบายที่สนับสนุนดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเทควันโด หรือฟุตบอลที่รัฐบาลมีงบสนับสนุนกีฬาลีก 3 (T3) ซึ่งเป็นฟุตบอลลีกอาชีพระดับล่างสุดของประเทศ และเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เช่น เรื่องการพัฒนากายภาพและกล้ามเนื้อ เพราะเมื่อมาเห็นศักยภาพ ตอนอายุช่วงประมาณ 15 – 16 ปี ก็จะทำไม่ได้ ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย โดยกีฬาฟุตบอล ก็มีโรงเรียนดี ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์ กับสโมสรใหญ่ ๆ ในไทย ที่มีการให้องค์ความรู้และการฝึกซ้อม การโภชนาการ