POLITICS

‘เศรษฐา’ ปลุกเลือกแบบยุทธศาสตร์ ไม่ใช่กลัว แต่เอาให้ชัวร์ กันเผด็จการกลับมา

‘เพื่อไทย’ ปิดปราศรัยแน่นอิมแพ็ค ‘เศรษฐา’ ปลุกเลือกแบบยุทธศาสตร์ ไม่ใช่กลัว แต่เอาให้ชัวร์ กันเผด็จการกลับมา ย้ำพร้อมเป็นนายกฯ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลั่น ไม่สู้ข้างประชาชน จะยืนตรงนี้หรือ เผย ‘ทักษิณ’ พร้อมใช้สมองระหว่างติดคุก พาประเทศพ้นวิกฤต

วันนี้ (12 พ.ค. 66) พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป 14 พ.ค. 66 ภายใต้ชื่อ “เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที”

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำปราศรัยตอนหนึ่งว่า เรามั่นใจว่าเราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้พายุฝนการเมืองกำลังตกหนักเกือบทุกพื้นที่ การเลือกตั้งครั้งนี้มีคนกล่าวหามีการซื้อเสียงมากที่สุด ฝนนี้มันเป็นฝนกรดมีพิษ ส่วนตัวมั่นใจว่าประชาชนคนไทยแม้โดนฝนกรด พี่น้องจะเก็บกินฝนนั้น เข้าคูหากาพรรค เพื่อไทย​เพื่อรับเงิน 1 หมื่นบาท วันเลือกตั้งมั่นใจพรรค เพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งถล่มทลาย 286 เสียงขั้นไป

นางสาวแพทองธาร ปราศรัยว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว ประชาชนพร้อมส่งเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนแล้วหรือไม่ วันที่ 14 พฤษภาคม จะเป็นวันประวัติศาสตร์ ที่จะเปลี่ยนผู้บริหารประเทศที่มาจากเผด็จการ สู่ผู้บริหารที่มาด้วยกระบวนการประชาธิปไตย การที่พรรคเพื่อไทยต้องมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน เพราะตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย เราเจออะไรมาเยอะ เราจึงไม่ประมาท แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนทำงานเป็นทีม บวกกับพรรคเพื่อไทยที่แข็งแรง คิดใหญ่ ทำเป็น วันนี้ไม่ว่าใครได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 2 คนจะช่วยสนับสนุนให้นโยบายที่สัญญาไว้สำเร็จทั้งหมด

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ยังปราศรัยว่า เคยได้ยินคนพูดว่าพรรคที่ถูกรัฐประหารมา ไม่สู้เคียงข้างประชาชน ถ้าไม่สู้เคียงข้างประชาชนตนจะยืนอยู่ตรงนี้หรือ ถ้าเพื่อไทยไม่ยืนข้างประชาชนถูกยุบไปสองครั้งจะกลับมาเช่นนี้หรือ

นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อว่า การเข้ามาการเมือง เพราะต้องการแสวงหาโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีช่องทางหารายได้ให้ครอบครัว เพื่อให้เศรษฐกิจดีอย่างตอนไทยรักไทยกลับมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ได้คุยกับคุณพ่อ ท่านพูดมาว่า ถ้าพ่อกลับมาติดคุก ระหว่างที่พ่ออยู่ในคุก ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อยากจะใช้มันสมองของท่าน ช่วยคนไทยผ่านวิกฤตไปให้ได้ และท่านซึ้งใจเพราะตั้งแต่ทำพรรคการเมืองมา ตั้งแต่ไทยรักไทย ได้รับการสนับสนุนของประชาชนตลอด ไม่เคยลืมบุญคุณของประชาชนเลย พี่น้องยังจำช่วงชีวิตที่ดีสมัยไทยรักไทย และเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ได้หรือไม่ จะเอาแบบนั้นอีกหรือไม่ วันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้เข้าคูหากา เพื่อไทย ผ่านวิกฤติไปด้วยกัน พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลประเทศไทยเปลี่ยนทันที ปิดสวิตซ์ ส.ว. ปิดสวิตซ์ 3 ป. คนไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกินมีใช้ไปด้วยกัน แลนด์สไลด์พาเพื่อไทยเข้าทำเนียบรัฐบาล

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า ประเทศไทยเคยอยู่อย่างสง่างามในเวทีโลก เรามีศักยภาพ มีคนเก่ง แต่ผู้นำคณะรัฐประหารได้สร้างวิกฤต เอาปืน เอารถถัง มาจ่อหัวเรา ทำลายศักดิ์ศรีบนเวทีโลก จากไข่แดงของอาเซียน แต่วันนี้ประเทศไทยกลายเป็นไข่ขาวรอบอินโดนีเซีย ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้นโดยรัฐบาลที่ประกาศคืนความสุข ทั้งที่หลังยึดอำนาจมีแต่คืนความทุกข์ สิ่งที่ส่วนตัวเจ็บปวดหัวใจที่สุดคือ การยัดข้อหาว่าเยาวชนไทยชังชาติ รัฐบาลนี้สร้างคุกขนาดใหญ่ไว้ขังคนไทย ทั้งหมดนี้เป็นผลไม้พิษจากการรัฐประหารปี 2557

นายเศรษฐา กล่าวว่า มาเพื่อไทยวันนี้ มาตัวเปล่า โดยปราศจากคำสัญญาใดกับผู้มีอำนาจและนายทุน คำสัญญาเดียวที่มีคือสัญญากับประชาชนว่า จะตั้งใจทำงานหนัก ทุ่มเท สู้เพื่ออนาคตของลูกหลาน ผมเป็นคนตรง ๆ พร้อมนำประสบการณ์จากภาคธุรกิจมาเป็นประโยชน์ สร้างอนาคตให้กับเยาวชนไทย ผู้สมัคร ส.ส. หลายคนของพรรครู้ลึก รู้จริง เป็นปรมาจารย์ พรรคเพื่อไทย เรามีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย ที่เคยดูแลประชาชนร่วม 66 ล้านคนครบ 4 ปี อีก 4 ปีเราเกือบเป็นประเทศพัฒนาแล้ว เกือบเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย น่าเสียดาย

วันนี้ขอโอกาสประชาชนอีก 4 ปีให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า เหมือนที่พรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนเคยทำมา นโยบายพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาตั้งแต่โครงสร้างขนาดใหญ่ และนโยบายเฉพาะกาลประกอบกันเป็นโรดแมป ขอเชิญชวนประชาชนมองไปข้างหน้าว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไรหากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

1.จะเห็นรัฐบาลที่บริหารอย่างจริงจัง ไม่ใช่บริหารแบบธุรการ เรามียุทธศาสตร์อย่างชัดเจน วางระบบให้คนรุ่นหลังดำเนินต่อไปได้

“ผมจะไม่บอกว่า ‘ถ้าไม่มีผมแล้วประเทศจะอยู่อย่างไร’ หรือ ‘ถ้าผมไม่ทำแล้วใครจะทำ’ เรากำหนดเป้าหมายชัดเจนว่าภายในปี 2567 เราจะมีจีดีพีประเทศโจไม่ตำกว่า 5% ภายใน 4 ปีค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 20,000 บาท ทุกคนจะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอย่างนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขอยืนยันนักลงทุนจะกลับมาสนใจประเทศไทยไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านของเรา”

2.ตั๋วจำนำหมดไป ระบบเศรษฐกิจของเราทำให้คนไทย ทุกอาชีพ ทุกฐานะ สามารถทำงานเลี้ยงครอบครัวได้ ด้วยนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เติมเงินให้ครอบครัว หลักตลาดนำ นวัตกรรมเสริม และเทคโนโลยีบล็อกเชน

3.รายจ่ายลดลง ผ่านการปรับปรุงบริการเทคโนโลยี 30 บาทรักษาทุกโรค นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ราคาไม่แพงในต่างจังหวัด

4.เราจะเห็นยาเสพติดลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยแนวทางของพรรคไทยรักไทย คืนลูกหลานให้ครอบครัว ไม่ใช่ปัญหาของสังคม

5.รักษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม จัดงานคอนเสิร์ตระดับโลก

6.คืนอากาศที่สะอาด จัดการ PM 2.5 อย่างต่อเนื่องที่ต้นตอ การจราจรในกรุงเทพฯ จะดูแล ไม่ปล่อยไว้แบบนี้

7.ปรับเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ รัฐบาลจะพูดคุยกับกองทัพถึงความจำเป็นในการเกณฑ์ทหาร ฝึกอาชีพอย่างประเทศพัฒนาแล้ว

8.จะไม่ยอมให้ประชาชนต้องทนกับค่าไฟ ค่าแก๊สแล้ว ควบคุมการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม หาแหล่งพลังงานใหม่

9.จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นภาระประชาชน เช่น ทำตัวเป็นนายประชาชน รีดไถประชาชน เราจะทำทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง เราจะไม่ยอมให้ซื้อขายตำแหน่งทางราชการเด็ดขาดทั้งนักการเมืองและข้าราชการชั้นสูง เราจะไม่โค่นล้มรัฐธรรมนูญ หรือก่อการรัฐประการ บังคับใช้กฎหมายเท่าเทียมและเป็นธรรม ใครโค่นล้มรัฐธรรมนูญจะถูกตราหน้าเป็นอาชญากร

10.เชิญทหารและตำรวจที่อยู่ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ไม่ถนัด กลับไปทำหน้าที่ของตนเอง นำผู้รู้ไปช่วยในวิสาหกิจ รัฐบาลเพื่อไทยจะลดการผูกขาดทุกรูปแบบทั้งภาครัฐและเอกชน

11.เราจะไม่เห็นการบังคับใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง เราไม่เห็คนตัวเล็กโดนกลั่นแกล้ง เราจะยกเลิกการตั้งด่านเก็บส่วยของตำรวจและกรมการขนส่งโดยไม่จำเป็น

นายเศรษฐา กล่าวว่า อนาคตที่ผมกล่าวทั้งหมดนี้เป็นไปได้จริง ด้วยความสามารถของพรรคเพื่อไทย ผมมีความฝันที่เห็นคนไทยอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจเติบโตด้วยหัวใจ มีจุดยืนบนเวทีโลก มีศักดิ์ศรีอีกครั้ง และฝันว่า พรรคเพื่อไทยจะได้รับใช้ประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ผมและพรรคเพื่อไทยจะต่อสู้ เพื่อไม่ให้พวกเราตื่นขึ้นมาพบประเทศขัดแย้ง พบผู้นำไร้หัวใจ คนไทยไร้ที่ยืนบนเวทีโลก

นายเศรษฐา ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย โดนมาหลายครั้ง แต่เรายังอยู่มาได้ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้ผมมั่นใจว่าพวกเราจะชนะเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราเป็นพรรคเดียวที่มีโอกาสทำให้ ส.ว. ต้องฟังเสียงประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องชนะให้มากกว่าทุกครั้งที่เคย ให้มากพอให้ ส.ว. ทำตามฉันทามติประชาชน เราเสี่ยงไม่ได้แล้ว ที่จะเลือกตั้งแบบไม่มียุทธศาสตร์ให้ฝ่ายเผด็จการกลับมาอีกแล้ว

“ผมขอวิงวอนจากใจ อย่าเลือกเพราะความกลัว แต่เลือกเพราะความชัวร์ ชัวร์ว่าพรรคเพื่อไทยทำได้จริง เราจะทำให้เสียงประชาชนเป็นใหญ่ พรรคเพื่อไทยต้องฟังเสียงประชาชน และผม นายเศรษฐา ทวีสิน ขอเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย” นายเศรษฐา กล่าว

Related Posts

Send this to a friend