POLITICS

‘ชูวิทย์’ จ่อฟ้องกลับ ‘ภูมิใจไทย’ เรียกค่าเสียหาย 1 พันล้าน

‘ชูวิทย์’ จ่อฟ้องกลับ ‘ภูมิใจไทย’ เรียกค่าเสียหาย 1 พันล้านบาท จากการออกนโยบายกัญชาเสรี พร้อมเปิดเบื้องหลังในการต่อต้านกัญชาพรุ่งนี้ เผย เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานฟัน กกต.

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นฟ้องนายชูวิทย์ 100 ล้านบาท กรณีป่วนเวทีปราศรัยที่ดินแดง เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมขอศาลไต่สวนฉุกเฉิน ห้ามนายชูวิทย์เข้าบริเวณพื้นที่ปราศรัยหาเสียงของพรรค (Show DC) ในวันที่ 12 พ.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันปราศรัยใหญ่ และห้ามก่อกวนใกล้พรรค หรือสถานที่หาเสียงใหญ่ของพรรค จนถึงวันเลือกตั้งก่อนที่ศาลแพ่งจะยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราวในเวลาต่อมา

นายชูวิทย์ ระบุว่าเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างตนเอง ซึ่งมาด้วยจิตใจที่เด็ดเดี่ยว พร้อมกล่าวว่า ในเมื่อพรรคภูมิใจไทยฟ้องตนเองในช่วงเวลาที่ผ่านมาตลอด ดังนั้นตนก็ขอประกาศว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 12 พ.ค.นี่ ตนเองจะฟ้องกลับพรรคภูมิใจไทยที่ศาลแพ่ง ในข้อหาที่นำนโยบายกัญชาเสรีทำให้ประชาชน และสังคมได้รับผลกระทบ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1 พันล้านบาท โดยจะนำเงินดังกล่าวไปเข้ากองทุนเยียวยาผลกระทบจากกัญชา ซึ่งจะให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแล

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีพยานหลักฐานในการไปฟ้องร้องหรือไม่ นายชูวิทย์กล่าวว่าหากถามหาพยาน ก็คงเป็นหมอ กับแพทยสภา หรือเครือข่ายทางการแพทย์ต่างๆ รวมทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพียงแค่ตนประกาศแล้วให้ร่วมลงชื่อ แบบนี้เพียงพอหรือไม่

ส่วนการที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมที่จะดำเนินการกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ให้พื้นที่กับนายชูวิทย์นั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่าขอให้พรรคภูมิใจไทยไปเตรียมตัวรับมือกับประชาชนที่จะดำเนินคดีกับพรรคตัวเองดีกว่า

ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค. 66) เวลา 09:00 น. ที่ศูนย์ต่อต้านกัญชาเสรี นายชูวิทย์ระบุว่าจะเปิดเผยบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการต่อต้านกัญชาเสรี ซึ่งก็คือบรรดาเครือข่ายทางการแพทย์ เหล่าอาจารย์หมอ ตลอดจนถึงนายกสมาคมนิติเวชแห่งประเทศไทย จำนวนประมาณ 50-60 คน แล้วจะได้เห็นว่าตนเองไม่ได้โดดเดี่ยว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในวันปราศรัยใหญ่พรรคภูมิใจไทย นายชูวิทย์จะไปหรือไม่ นายชูวิทย์ระบุว่ายังไม่ขอตอบ เนื่องจากหากประกาศว่าจะเดินทางไปอาจจะมีการเตรียมการเพื่อรอรับ แต่หากจะไป จะเดินทางไปเพียงคนเดียวเพื่อแสดงออกทางสิทธิเสรีภาพของในมุมของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกัญชา

ส่วนการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการโกงการเลือกตั้ง นั้น นายชูวิทย์ระบุว่าขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้ว หลายเรื่องซึ่งมีครบทุกภาคของประเทศไทย หนักสุดคือภาคใต้ และภาคอีสาน ส่วนภาคกลาง คือ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี พร้อมยืนยันว่ามีทุกจังหวัด และในวันเลือกตั้งที่ 14 พ.ค.นี้จะเปิดศูนย์รายงานสถานการณ์การเลือกตั้ง รวมทั้งการทุจริตการเลือกตั้งแบบเรียลไทม์ และยืนยันอีกด้วยว่าคนอย่างตนนี่แหละ จะเป็นคนให้บทเรียนกับนักการเมืองเอง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาพูดถึงการโกงการเลือกตั้ง แต่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังค่อนข้างนิ่ง นายชูวิทย์ระบุว่า กกต.ได้รับการแต่งตั้งมา ตนเองจึงไม่ทราบว่าคิดอย่างไร แต่อย่ามาถามตนเองเพียงคนเดียว ทุกๆ คน ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ความผิดพลาดของ กกต.ในการเลือกตั้งล่วงหน้านั้นให้อภัยไม่ได้ ดังนั้น การดำเนินคดีหรือฟ้องศาลต่อ กกต. เช่นเดียวกับกรณีของ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ แต่ตนเองต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานให้ชัดเจน เพราะครั้งก่อนเป็นการกระทำโดยเปิดเผย แต่กรณีของตนเองนั้นต้องรวบรวมผู้เสียหาย และมีพยานหลักฐานอันมั่นคงจึงต้องใช้เวลา

Related Posts

Send this to a friend