นายกฯ สั่ง คมนาคม-ท่องเที่ยว เตรียมพร้อมทุกระบบบริการ ช่วงสงกรานต์
วันนี้ (12 เม.ย. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 หรือ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักรเพิ่มเติมโดยการยกเลิกการใช้ผลตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการปรับปรุงมาตรการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ศบค. เพื่อประกาศและดำเนินการในระยะต่อไป
จากการติดตามพบว่า การโดยสารทางอากาศยานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ประเมินว่าระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย. 2565 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , ดอนเมือง , เชียงใหม่ , แม่ฟ้าหลวง เชียงราย , ภูเก็ต และหาดใหญ่ จะมีเที่ยวบินประมาณ 9,310 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.48% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 2,490 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 6,820 เที่ยวบิน มีจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 103.07% แบ่งเป็นเป็นผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ 238,800 คน และผู้โดยสารภายในประเทศ 843,220 คน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมติดตามแนวโน้มจำนวนผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับประสานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยาน (EOC) สำนักงานการบินพลเรือน แห่งประเทศไทย ท่าอากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินเข้า-ออกระหว่างประเทศบิน ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้องในการวางแผนรองรับ โดยทุกระบบของทุกหน่วยบริการ ณ ท่าอากาศยานต้องมีความพร้อม และสามารถปรับแผนการให้บริการให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสาร
นอกจากนี้ ยังให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานผู้ประกอบการโรงแรม เตรียมการทั้งกำลังคนและรถรับส่งผู้โดยสารจากท่าอากาศยานให้เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีการเดินทางหนาแน่น ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวด












