‘พริษฐ์’ ขออย่าด่วนสรุป หลัง กกต.ยื่นศาล รธน.ยุบพรรคก้าวไกล
‘พริษฐ์’ ขออย่าด่วนสรุป หลัง กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล เผยทีมกฎหมายทำเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ปัดตอบตั้งพรรคสำรอง ชี้ไม่อยากให้การยุบพรรคกลายเป็นเรื่องปกติ ยันพร้อมเดินหน้าซักฟอกรัฐบาล ม.152
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 และ 93 จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้ขาดการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า พรรคก้าวไกล และทีมกฎหมายของพรรคเตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว
นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า ยังไม่ขอด่วนสรุปว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร แต่ทีมกฎหมายจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพรรคฯ และการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพรรค ไม่ได้สำคัญเท่าการพิสูจน์การดำเนินการของพรรคไม่ได้ผิด และมองว่า หากพรรคก้าวไกลสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องสำหรับการเมืองไทยในอนาคต
แม้พรรคฯ จะเข้าใจดีว่าการยุบพรรคการเมืองเกิดขึ้นหลายครั้งกับหลายพรรคการเมืองตลอดประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา แต่ก็ไม่อยากให้การยุบพรรคกลายเป็นเรื่องปกติ หรืออย่างกรณีของพรรคภูมิใจไทย ที่ สส.ก้าวไกลเป็นผู้เปิดโปงการทุจริต ก็ไม่ได้มองว่าบทลงโทษที่เหมาะสมจะเป็นการยุบพรรค แต่ควรลงโทษผู้กระทำผิด หรือกรรมการบริหารพรรคที่กระทำผิด เพราะท้ายที่สุด พรรคการเมืองเป็นองค์กรที่ใหญ่กว่าตัวบุคคล และเป็นศูนย์รวมความคิดของบุคคล
ส่วนประเด็นการเตรียมการพรรคสำรอง นายพริษฐ์ เห็นว่า พรรคก้าวไกลมีการรับมือวางแผนทุกฉากทัศน์อยู่แล้ว แต่ยังไม่ด่วนสรุปถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ทีมกฎหมายจะทำหน้าที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์เท่าที่จะทำได้ เพราะไม่อยากให้การยุบพรรคกลายเป็นเรื่องปกติ ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น ชุดความคิด และนโยบายของพรรคก้าวไกลที่พยายามผลักดันจะต้องขับเคลื่อนต่อไปในการเมืองไทยแน่นอน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่กังวลถึงกรณีที่หากเกิดการยุบพรรคแล้ว สส.ของพรรคจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น แต่กังวลว่า จะกลายเป็นค่านิยมของการเมืองไทยที่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าทุกคนที่ผ่านการเลือกตั้งเป็น สส.ของพรรคก้าวไกล มีความเห็นตรงกัน ทั้งอุดมการณ์ ชุดความคิด และสภาวะนิติสงครามต่าง ๆ ที่เป็นความเสี่ยงทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น จึงมั่นใจว่า สส.ก้าวไกล จะเดินหน้าต่ออย่างเป็นเอกภาพในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงที่อยากเห็น
ขณะเดียวกัน นายพริษฐ์ ยังมั่นใจด้วยว่ามติของ กกต.ที่ออกมา ไม่ได้ทำให้พรรคก้าวไกลเสียสมาธิในการทำงาน โดยเฉพาะการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ ม.152 ที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) และจะยังคงมีความเข้มข้นในการทำหน้าที่ เพราะตั้งแต่เริ่มการทำงานของสภาชุดนี้ พรรคฯ ทำงานคู่ขนานกัน ทั้งบทบาท สส. และทีมกฎหมายของพรรคฯ เรื่องคดีล้มล้างการปกครองในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์
สำหรับการเตรียมการของพรรคก้าวไกลในการเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้อภิปราย และประเด็น ซึ่งพรรคฯ เปิดโอกาสให้ สส.แสดงความจำนงว่าจะอภิปรายเรื่องใด ก่อนที่คณะกรรมการคัดเลือกจะตรวจสอบ และสัมภาษณ์ เพื่อความละเอียด ซึ่งตั้งแต่เปิดปีใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคฯ ชี้แจงแผนการทำงานของพรรค และกำหนดการอภิปรายทั่วไปในช่วงเดือนเมษายน สส.ของพรรคฯ จึงเตรียมความพร้อมรวบรวมข้อมูล ทำการบ้านกันล่วงหน้าอยู่แล้ว
