POLITICS

สว.สมชาย เตือนก้าวไกล หยุดใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือการเมือง เลิกเคลื่อนไหวแก้ ม.112

วันนี้ (12 ก.พ.67) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อขบวนเสด็จ ฯ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม สถาบันพระมหากษัตริย์ มี พ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 สามารถใช้ได้ทันที สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยความมั่นคง ควรใช้กฎหมายที่มีอยู่ และประมวลกฎหมายอาญาดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการดังกล่าว เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่เกิดความขัดแย้ง

กรณีดังกล่าวอาจเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ทำให้เกิดความเกลียดชังนำไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคการเมือง โดยเฉพาะนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาไม่เห็นด้วย เพราะมวลชนเหล่านี้เป็นผู้เชื่อมโยง ศรัทธา ได้รับการประกันตัวจากการเป็นนายประกันของ สส.อนาคตใหม่ และก้าวไกล ดังนั้นการเคลื่อนไหวในความผิดมาตรา 112 มีเจตนาซ่อนเร้น พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เหมาะไม่ควร และเป็นการคุกคามที่คนไทยรับไม่ได้

ทั้งยังขอเตือนพรรคก้าวไกล แม้จะไม่เห็นความรุนแรงของมวลชนที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย แต่พรรคก้าวไกลต้องแสดงให้สังคมและประชาชนเห็นว่ามีความจงรักภักดี มีความเชื่อมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข บอก สส. และพรรคของท่าน มวลชนของท่านว่าการกระทำไม่ถูกต้อง ขอให้ยุติทั้งหมด ทั้งการกระทำบนท้องถนน บนเวที ในสภาฯ นอกสภาฯ และในโซเชียล สนับสนุนให้รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินตามการกฎหมายอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ คนที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไปประกันตัวและยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ ก็จะเห็นความเชื่อมโยงต่อเนื่อง โดยการกระทำดังกล่าวเกิดจากการเร้าของพรรคการเมืองทางความคิดด้วยความเชื่อที่ผิด ๆ ไม่หวังดีกับประเทศ ทั้งที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงงานหนัก มาตรการปิดถนนมีการปรับ จะเห็นว่าท่านทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งท่านรับรู้ถึงการจราจร เสด็จไปพร้อมขบวนรถของประชาชน ปิดเส้นทางเท่าที่จำเป็น

ขอเรียนไปยังนายชัยธวัช ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านว่า อย่าพูดแต่พิสูจน์ให้ได้ด้วยการกระทำว่า ท่านเป็นพรรคการเมืองที่จงรักภักดีอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ประมุข เลิกการเคลื่อนไหวนิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดี 112 และการแก้ไข 112 จะเห็นว่าเยาวชนหรือคนหนุ่มสาวที่หลงเชื่อหลงผิด เคลื่อนไหวในทิศทางที่รุนแรงก้าวร้าว กระทำความผิดซ้ำมากขึ้น ถือเป็นชนวนเหตุเล็ก ๆ ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง หลายคนที่เคยผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จะเห็นว่าเริ่มต้นจากความเกลียดชังของสังคม หากเรายังไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เราจะเสียใจในอนาคต แล้วคนที่รับผิดชอบคือ พวกเราในยุคนี้และพรรคก้าวไกล

Related Posts

Send this to a friend