POLITICS

รองโฆษกรัฐบาลฯ เผย รองนายกฯ อนุทิน ขอบคุณพี่น้อง อสม.กองหน้าดูแลสุขภาพคนไทย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ล่าสุดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ขอบคุณพี่น้อง อสม.ที่เป็นกองหน้าดูแลสุขภาพคนไทย ใกล้ชิด ซึ่งในภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ยังคงดีขึ้นโดยต่อเนื่อง พร้อมกันนี้รองนายกฯ นายอนุทิน ได้กล่าวย้ำนโยบายสาธารณสุข พร้อมดูแลสุขภาพ และมอบสวัสดิการให้พี่น้องประชาชนต่อเนื่อง ทั้งช่วงมีโควิด19 และสถานการณ์ปกติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า “ตั้งแต่ประเทศไทยได้ประกาศ ปรับระดับโรคโควิด19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังมาตั้งแต่ 1 ต.ค.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ให้การติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด ซึ่งในภาพรวมขณะนี้ถือว่ายังคงดีขึ้นโดยต่อเนื่อง โดยรายงานล่าสุดของกรมควบคุมโรค วันที่ 1-7 ม.ค. 66 ระบุว่าทั่วประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ 997 คน หรือเฉลี่ยวันละ 142 คน ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จ จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน หน่วยงานของรัฐ เอกชน ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งนี้ นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการบริหารจัดการโควิด19 ของไทย มีส่วนสำคัญจากการทำงานหนัก ของบุคลากรทุกระดับ รวมถึงพี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นกองหน้าในการช่วยดูแลสุขภาพคนไทย ไปถึงชุมชนระดับฐานรากทั้งในช่วงเกิดโรคระบาดและสถานการณ์ปกติ

“รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ได้ขอบคุณพี่น้อง อสม.ที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆในการดูแลคนไทยมาโดยตลอด เป็นด่านหน้าคนแรกๆที่เข้าไปดูแลคนชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้อง อสม. จึงได้เน้นย้ำถึงนโยบายการดูแลและมีสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม. ทั่วประเทศ ให้ต่อเนื่องสอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งช่วงมีการแพร่ระบาดของโควิด19 และสถานการณ์ปกติ”

ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีสวัสดิการ ที่เป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม.และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) 1,050,306 คน อยู่หลายด้านด้วยกัน อาทิ ค่าตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้เพิ่มเติมอีกเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 30 เดือน หรือ 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่ มี.ค. 63- ก.ย. 65 รวมกว่า 15,000 ล้านบาท และมีสวัสดิการด้านการดูแลสุขภาพ ตามรายการตรวจสุขภาพประจำปี ภายใต้ระเบียบสาธารณสุข ว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล เพื่อให้ อสม.ได้รับการตรวจสุขภาพตามช่วงวัย อาทิ การประเมินคัดกรองความดันโลหิต, ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด(Thai CV risk score), ภาวะซึมเศร้า,ภาวะเครียด สำหรับผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพิ่มการตรวจความเข้มข้นระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) ตรวจอุจจาระ (Stool examination)สำหรับผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงพยาธิใบไม้ตับ และกรณีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการประเมิน ภาวะถดถอย 9 ด้านด้วย

นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการค่าห้องพิเศษและอาหารพิเศษ ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล ที่กำหนดให้ อสม.ทุกคน เมื่อเข้าพักรักษาตัวในสถานพยาบาลของรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จะได้รับการยกเว้นค่าห้องพิเศษและอาหารพิเศษ ส่วนกรณีบุคคลในครอบครัวของ อสม.ให้ได้รับสิทธิช่วยเหลือร้อยละ 50 มีสวัสดิการจากมูลนิธิ อสม.ไทย กรณีประสบอุบัติเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ กรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท,ทุพพลภาพ 3,000 บาท และเยียวยา 1,000-2,000 บาท เงินช่วยเหลือเยียวยา จากผลกระทบการปฏิบัติหน้าที่ทั้งโดยตรงและทางอ้อม โดยการยื่นคำขอผ่านหน่วยงานต้นสังกัด มายังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตลอดจนสิทธิฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. เป็นต้น

“กระทรวงสาธารณสุขยังได้ให้ความสำคัญ กับการพัฒนาศักยภาพ อสม.ให้สามารถสนับสนุน “นโยบาย 3 หมอ” โดย อสม.จะเป็นหมอคนแรกที่ดูแลสุขภาพคนไทย ก่อนส่งต่อไปยังหมอคนที่ 2 คือ บุคลากรในสถานบริการปฐมภูมิ และหมอคนที่ 3 แพทย์ในโรงพยาบาลต่อไป ซึ่งส่วนหนึ่งของการพัฒนานี้มีการดำเนินการคัดเลือก อสม.หรือทายาทของ อสม.เข้าร่วมหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล 3,000 คน โดยการร่วมมือของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสถาบันพระบรมราชชนก

Related Posts

Send this to a friend