POLITICS

นายกฯ ฉีกปฏิญญา 4 ข้อ หลังจากนี้ดำเนินการตามที่เห็นว่าไทยได้ประโยชน์ ไม่สน มาเลเซีย – เมิน ‘ทรัมป์’

นายกรัฐมนตรี ใช้ไม้แข็ง ลั่น “สันติภาพมันจบลงแล้ว” ฉีกปฏิญญา 4 ข้อ หลังจากนี้ดำเนินการตามที่เห็นว่าประเทศได้ประโยชน์ ไม่สน มาเลเซีย ขอรื้อฟื้นปฏิญญาสันติภาพ เมิน ‘ทรัมป์’ บอก ไม่ต้องรายงาน เพราะเป็นประเทศอธิปไตย ไม่ต้องรายงานใครทั้งนั้น หากจำเป็นต้องตอบ ก็จะตอบ

วันนี้ (11 พ.ย. 68) เวลา 18:00 น. ที่ฐานปฏิบัติการอินทุมาน (ภูมะเขือ) อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการมาตรวจเยี่ยมบนฐานปฏิบัติการอินทุมาน (ภูมะเขือ) ว่า ประเทศไทยเป็นของเรา ที่ที่เรายืนอยู่คือประเทศไทย ใครจะมาแอบอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนของไทยไม่ได้ แต่ว่าวันนี้การที่จะพูดเรื่องนี้ เราถือว่าสิ่งที่เราได้มีข้อตกลงกันไว้ เพื่อจะเดินไปสู่การมีสันติภาพ ”มันจบลงแล้ว“ จากนี้ไปรัฐบาลไทยก็จะดำเนินการในสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์สำหรับประเทศไทย เป็นสิ่งที่ประเทศไทยจะทำโดยที่ไม่ต้องไปหารือ ไปปรึกษาหรือขออนุญาตใคร

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เราได้มีการหารือพูดคุยกับทางกองทัพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปมาค่อนข้างชัดเจนในการปฏิบัติ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมรับทราบอยู่แล้วว่า จะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง แต่ต้องขอความกรุณาผู้สื่อข่าว ว่าเราอยากจะบอกว่า เราไม่ตอบ แต่ขอความกรุณาว่าไม่ต้องถาม เพราะเราจะทำอะไรในเรื่องของความมั่นคงแห่งชาติ เราบอกไม่ได้ และถ้าถามมาแล้ว พอเราไม่ตอบก็กลายเป็นว่าเราย่อหย่อน หย่อนยาน แต่ความจริงเราไม่เคยหย่อนยาน เราไม่เคยคิดที่จะยอมหรือเสียเปรียบใดๆ กับฝ่ายตรงข้าม เราวางตัวเป็นผู้กำหนดบทบาทอยู่เสมอ

ดังนั้น วันนี้ก็เช่นกัน ยิ่งทำให้ตนในฐานะรัฐบาลที่เป็นคนลงนามในปฏิญญาก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ณ ขณะนี้ 4 ข้อในปริญญาประเทศไทยไม่ปฏิบัติแล้ว และจะกำหนดการดำเนินการของตนเอง โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนข้อกำหนดต่างๆ และการดำเนินการของกองทัพอย่างเต็มที่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มาเลเซียจะขอรื้อฟื้นเรื่องของการลงนามปฏิญาณนั้น เราจะทบทวนหรือไม่ นายกฯ ย้อนถามว่า รื้อฟื้นเรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า เรื่องการทำปฏิญญาเพื่อนำไปสู่สันตินั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันชัดเจนแล้วว่าผู้ร่วมสัญญาไม่ได้ปฏิบัติตามปฏิญญา ยิ่งวันนี้ที่มาตรงนี้เพื่อมาให้มาเห็นกับตา เมื่อผู้นำไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสักขีพยานที่ลงนามอยู่ในปฏิญญาในวันนั้น ถ้าท่านทั้ง 2 จะถามมาตนก็จะสามารถตอบได้ว่า ตนมาอยู่ในพื้นที่ ตนได้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่า คู่สัญญาของประเทศไทยก็คือประเทศกัมพูชา ได้มีการละเมิดสิ่งที่ตัวเองจะต้องทำอย่างไรบ้าง บนความชัดเจนทุ่นระเบิด 4 ทุ่น ที่วันนี้เหลือ 3 ทุ่น เพราะว่าน้องทหารของเราเหยียบไป 1 ทุ่น เป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่วางในเขตของเรา หลังจากวันที่เราได้ลงนามในข้อตกลง

ทั้งนี้ ประเทศไทยทำทุกอย่างตามข้อตกลง และการพยายามที่จะดึงให้มีความล่าช้าเกิดจากฝ่ายกัมพูชา ประเทศไทยก็ยังใช้ความอดทน เรายังเชื่อมั่นว่า ในการที่เรามีโลกทั้งใบเป็นพยาน มีประชาคมอาเซียนเป็นพยาน อย่างไรเสียอาจจะช้าในวันหรือสองวันข้อตกลงจะได้รับการปฏิบัติ แต่วันนี้มันพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่ ก็ไม่มีข้อตกลง และเราก็จะทำในสิ่งที่เราเห็นว่าเราต้องทำ

ผู้สื่อถามอีกว่า เราต้องรายงานไปที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า รายงานใคร เราเป็นประเทศอธิปไตย ไม่รายงานใครทั้งนั้น ถ้าเขาถามมา ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องตอบ ตนจะตอบอย่างเช่น เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ทำหน้าที่ ก็ถามตน ถ้าไม่มีความจำเป็นจะต้องตอบ ตนก็ไม่ตอบ

ดังนั้น วันนี้เราก็จะดำเนินการตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แม่ทัพภาคที่ 2 และคนที่อยู่หน้างาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี วันนี้ถ้าตนบอกแล้วว่ารักษาอธิปไตย รักษาเกียรติยศ เกียรติภูมิรักษาจิตใจของทหาร และพี่น้องประชาชน ตนมาวันนี้ก็ขอให้ภาพมันเป็นการอธิบายตัวมันเอง ของหลายอย่างไม่ต้องพูดแล้ว

ส่วนวันนี้ได้บอกเจ้าหน้าที่ และกำชับให้กำลังใจอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เต็มที่ ตนกับพี่น้องทหารไม่ต้องใช้คำพูด ใช้สายตา ใช้แรงบีบกำมือซึ่งกันและกัน เราจะเข้าใจกันดี ตนมั่นใจว่า ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีแรงบีบขนาดนี้คือต้องการให้มันเป็นยังไง

Related Posts

Send this to a friend