ทนาย ‘บอสพอล‘ เผย พร้อมชี้แจงทุกประเด็นคดีแชร์ลูกโซ่ ที่ DSI แจ้ง

คุย มีหลักฐานครบ ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ยันพยานอีกกว่า 2,000 ปากจะตัดไม่ได้หากไม่ทัน7 ฝากก็ต้องปล่อยตัว
วันนี้ (11 พ.ย. 67) เวลา 15:45 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทน์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 (แชร์ลูกโซ่) และ พ.ร.บ. ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 เพิ่มเติม นานกว่า 4 ชั่วโมง ว่า ดูจากพฤติการณ์ที่ดีเอสไอแจ้งมา ก็เป็นเรื่องที่สามารถตอบได้ และทุกประเด็นสามารถชี้แจงได้อย่างเด็ดขาด โดยประเด็นหลัก จะมีเรื่องของดีลเลอร์เก็ทดีลเลอร์ คือตัวแทนที่แนะนำให้ตัวแทนคนอื่นสั่งซื้อสินค้าหรือเปิดบิล ก็จะได้ค่าตอบแทน ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้า และเรื่องดังกล่าว ไม่ได้มีตลอด ไม่มีระยะเวลาตายตัว บางเดือนก็ไม่มี จะมีก็แค่ช่วงที่บริษัทต้องการทำยอดเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นปกติประจำของบริษัท ทำให้ในประเด็นนี้ตอบได้ และมีหลักฐานครบ
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ ยืนยันว่า ไม่มีประเด็นไหนที่น่าหนักใจ ส่วนประเด็นที่นำมากล่าวอ้างว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ก็เป็นเพียงแค่คะแนนที่นำไปใช้ในการท่องเที่ยวเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่า แจ้งเข้ามาเป็นพฤติการณ์ในการแจ้งข้อกล่าวหาได้อย่างไร รวมถึงประเด็นเรื่องการชักชวนคนมากกว่าการขายสินค้า โดยในพฤติการณ์ที่ดีเอสไอระบุว่า ลูกค้าตัวแทนจ่ายเงินให้กับบริษัทแล้ว ได้ค่าตอบแทนมีทั้งแบบพ้อยหลัก และดีลเลอร์เก็ทดีลเลอร์ ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทำให้มั่นใจว่า กรณีเหล่านี้สามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 18 คน และยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากห้องสอบสวนมีห้องเดียว และฝั่งแดนชายมีผู้ต้องหาหลายคน จึงทำให้สอบปากคำไม่ทัน ดังนั้น หลังจากนี้ก็จะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร และจะยื่นให้ภายใน 15 วัน โดยจะทำรายละเอียดว่า แต่ละเรื่องที่ดีเอสไอระบุพฤติการณ์แห่งคดีมา ผู้ต้องหาจะชี้แจงอย่างไรบ้าง ซึ่งเรามีทั้งเอกสารหลักฐาน การส่งสินค้าไปยังปลายทางทุกอย่าง จึงไม่ได้กังวลอะไร
ส่วนผู้ต้องหาที่เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ คือ บอสอูมมี่ เนื่องจากตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา มีอาการอาเจียนบ่อย และอ่อนเพลีย จึงส่งเข้าโรงพยาบาล
ทั้งนี้ กรณีที่สอบปากคำไม่ทัน 7 ฝาก มองว่า ผู้ต้องหาให้การไปไม่รู้จะใช้ระยะเวลากี่วัน เพราะรายละเอียดเยอะ แต่ตนเองเชื่อว่าทัน โดยพยานอีกกว่า 2,000 คน จะตัดไม่ได้ ถ้าไม่ทันตามกฎหมายก็ต้องปล่อยตัว โดยส่วนตัวก็คงไม่เกเรขนาดนั้น คงจะยื่นขอประกันตัวก่อน เพราะมองว่า พฤติการณ์แห่งคดีที่ดีเอสไอแจ้ง สามารถยื่นขอประกันตัวได้ และยืนยัน ไม่ใช่แผน แต่เป็นนำพยานที่ขายของได้เข้าไปในสำนวน และไม่ควรฟังความข้างเดียว ต้องฟังความอีกข้างด้วย โดยย้ำว่า จะต้องสอบให้หมดทุกปาก
ส่วนการเตรียมยื่นขอประกันตัว ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ได้หารือกับทนายหลายคนว่า จะประกันตัวบอสวิน ออกมาก่อน เพราะร่างกายเริ่มแย่ เนื่องจากเป็นมะเร็งเม็ดเลือดระยะที่ 3 แล้วทำให้เกิดความกังวลใจ โดยจะยื่นประกันเร็วๆ นี้ ซึ่งทางเรือนจำฯ ก็มีแพทย์ และพยาบาลคอยดูแลตลอด
อย่างไรก็ตาม การเข้าพบลูกความในวันนี้ได้พูดคุยกับนายวรัตน์พล เพียงเรื่องการต่อสู้คดีเป็นหลัก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และนายวรัตน์พลไม่ได้กังวลอะไรที่ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม พร้อมยืนยันว่า สู้คดีได้หมด และตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องการสู้คดีก่อน แต่ถ้าถามว่ามีออเดอร์ให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มหรือไม่ นายวิฑูรย์ ยอมรับว่า มี เป็นกลุ่มแม่ข่ายกับนักธุรกิจ ประมาณ 4-5 คน และยังไม่เคยเปิดชื่อมาก่อน
นอกจากนี้ นายวิฑูรย์ ยอมรับอีกว่า นายวรัตน์พล ทราบแล้วว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เข้าไปอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่นายวรัตน์พล ไม่ได้มีแอ็กชั่นอะไร และไม่ได้พูดถึงด้วย