POLITICS

‘อนุทิน’ ย้ำ ‘เกาะกูด’ เป็นของไทย ไม่อยู่ในปมร้อน MOU44 ขอให้สบายใจ

‘อนุทิน’ ย้ำ ‘เกาะกูด’ เป็นของราชอาณาจักรไทย ไม่อยู่ในปมร้อน MOU44 ขอให้สบายใจ ใช้ชีวิตปกติ แจง เป็นเรื่องการตั้งคณะกรรมการคุยพัฒนาร่วมด้านพลังงาน-เศรษฐกิจ หากไปต่อไม่ได้แค่ยุติ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางมายังศาลาประชาคมเกาะกูด จ.ตราด เพื่อตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายข้าราชการ โดยกล่าวว่า วันนี้มาที่เกาะกูดหลังมีกระแสข่าว MOU44 เรื่องการอ้างพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลต่าง ๆ อาจทำให้ประชาชนในอำเภอเกาะกูดเกิดความสับสนถึงขั้นไม่สบายใจ จึงเรียนให้ทราบว่าเป็น 100 ปีมาแล้วเกาะกูดเป็นของไทย มีสถานะเป็นอำเภอ ดังนั้น อยากให้ทุกคนสบายใจว่าไม่มีใครเอาเกาะกูดออกจากประเทศไทยได้แม้แต่ตารางนิ้วเดียว

ส่วนที่มีคำถามถึงสนธิสัญญาหรือข้อตกลงต่าง ๆ ให้คิดง่าย ๆ ว่า วันนี้ที่เดินทางมาเกาะกูด ต้องเอาพาสปอร์ตมาด้วยหรือไม่ ต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองหรือเปล่า ซึ่งเราไม่ต้องทำกระบวนการเช่นนั้นเลย ออกจากตราดนั่งเรือมาเกาะกูดเช็คอินเข้าพักใช้บัตรประชาชนใช้เงินบาทก็จบแล้ว

นายอนุทิน กล่าวว่า MOU44 วัตถุประสงค์เพื่อวางกรอบในการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการด้านเทคนิคที่แต่ละประเทศตั้งขึ้น ซึ่งมีหัวข้อว่าจะมีแนวทางในการร่วมกันพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมใต้ทะเลอย่างไร เพราะในอ่าวไทยมีก๊าซมีปิโตรเลียม น้ำมัน และทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ซึ่งต้องหาวิธีนำขึ้นมาใช้

นอกจากนี้ ยังเพื่อแบ่งเขตเศรษฐกิจจำเพาะอย่างไรให้เป็นไปตามกฏหมายระหว่างประเทศ ซึ่งถ้อยคำใน MOU44 ประเทศหนึ่งขีดเส้นหนึ่งเส้น อีกประเทศขีดเส้นอีกหนึ่งเส้น แล้วทั้งสองประเทศเส้นมาเกยกันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อน จึงต้องตั้งคณะกรรมการทั้งสองประเทศขึ้นมาคุยกัน แต่ต้องยึดหลักสากลคือหลักกฏหมายระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องทรัพยากร เรื่องเขตทางทะเลว่าจะขีดเขตทางทะเลออกไปอย่างไร

“MOU44 ไม่ใช่สัญญาว่าคุณจะขุดออกไปกี่กิโลเมตรหรือจะขุดร่วมกันหรือไม่ ซึ่งยังไม่ถึงจุดนั้น ตอนนี้เพียงแต่จะหาความเห็นร่วมกันก่อนว่าแต่ละพื้นที่แต่ละประเทศครอบครองเท่าไหร่ในทางทะเล ผมขอย้ำว่าเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของดินแดนไม่ใช่เรื่องของแผ่นดิน เกาะกูดจึงเป็นดินแดนของประเทศไทย เรื่องเกาะกูดไม่มีอยู่ในเอ็มโอยู 44 และเมื่อเห็นตกลงเมื่อไหร่ตามเอ็มโอยูก็จะมีการสร้างสนธิสัญญาพัฒนาร่วม ซึ่งส่วนนั้นยังอีกห่างไกลกว่าจะไปถึงจุดนั้น” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะไปทำสนธิสัญญากับใครต้องได้รับความเห็นจากรัฐสภาของแต่ละประเทศก่อน จึงมีขั้นตอนอีกมาก และหากถึงที่สุดแล้วตกลงกันไม่ได้เห็นไม่ตรงกันก็ยกเลิกกันไป ดังนั้น จึงไม่ต้องมานั่งบอกว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก MOU เพราะ MOU บอกแค่ว่าให้มาคุยกัน

นายอนุทิน กล่าวว่า การเดินทางมาเกาะกูดวันนี้เพื่อให้ความมั่นใจว่าเกาะกูดไม่ใช่ประเด็นของปัญหา ขอให้นักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยว ขอให้ชาวบ้านได้ใช้ชีวิตตามปกติ MOU44 ไม่มีส่วนใดเลยที่จะเป็นพิษเป็นภัยต่อเกาะกูด ซึ่งอาณาเขตของประเทศไทยรัฐบาลมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ และเขตแดนของประเทศไทยอยู่แล้ว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat