‘คารม’ แจง เหตุไม่เข้าร่วมประชุม ครม. เป็นนโยบายผู้บริหาร สั่งการรองโฆษกฯ สลับเข้าประชุม

‘คารม’ แจง เหตุไม่เข้าร่วมประชุม ครม. เป็นนโยบายผู้บริหาร สั่งการรองโฆษกฯ สลับเข้าประชุม เหตุสถานที่คับแคบ เผย ไม่ติดใจคำสั่ง แต่กังวลสื่อสารผิดพลาด ปัดตอบ ‘เพื่อไทย’ ไม่ไว้ใจรองโฆษกจาก ‘ภูมิใจไทย’ เปรียบรัฐบาลผสมเหมือนสายรุ้ง มีหลายสีมองให้สวยงาม
วันนี้ (11 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวไม่อนุญาตให้รองโฆษกเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากสถานที่คับแคบ ว่า ที่เมื่อวานนี้ไม่เจอตนเองในที่ประชุม ครม. เนื่องจากก่อนประชุม ครม.1 วัน ได้รับข้อความจากนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าทางผู้บริหารมีนโยบายให้รองโฆษกเวียนเข้าประชุม ครม. โดยจะมีโฆษก และรองโฆษกเข้าประชุมเพียง 1 คน จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ได้เข้าประชุมด้วยเมื่อวานนี้
นายคารม กล่าวต่อว่า ผมเป็นคนง่าย ๆ แต่มองว่ามีประเด็นสำคัญในที่ประชุม ครม. เช่น เรื่องอาวุธปืนที่กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เสนอให้ ครม.รับทราบ ทำให้ต้องมาอ่านตามหลัง แต่ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร และเข้าใจ เพียงแต่จะค่อนข้างยากที่ต้องมาต่อประเด็นเอง โดยการอ่านเพื่อมาตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวานจึงเลี่ยงที่จะไม่พูดอะไร อีกทั้งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเป็นรองโฆษก จึงไม่ทราบเหตุผลในคำสั่งดังกล่าว รวมถึงประเด็นเรื่องสถานที่คับแคบ ตนเองไม่ใช่คนให้ข่าว ทราบแค่เป็นนโยบายของผู้บริหาร
ส่วนคำสั่งนี้เป็นนโยบายของโฆษก หรือรัฐบาล นายคารม กล่าวว่า น่าจะเป็นนโยบายของผู้บริหารที่ส่งมายังโฆษก
สำหรับเหตุผลที่อ้างว่าสถานที่คับแคบนั้น นายคารม ระบุว่า ไม่ใช่ประเด็นนั้น เพียงแต่ระบุว่าให้โฆษกเข้า ร่วมประชุมกับรองโฆษกหนึ่งท่านโดยการหมุนเวียนกัน โดยในสัปดาห์หน้าจะได้เข้าร่วมประชุม แต่หากมีรองโฆษกเพิ่มก็จะจะต้องสลับกันเข้าประชุม
ส่วนติดใจหรือไม่กับเรื่องนี้ เพราะไม่เคยเกิดขึ้น นายคารม กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เพราะผมเป็นคนไม่มีปัญหา หากผู้บริหารว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น
ส่วนหากมีมติ ครม. ที่เกี่ยวกับพรรคที่สังกัด แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม จะมั่นใจกับการสื่อสารได้อย่างไรนั้น นายคารม ระบุว่า ก็ต้องมาตามประเด็นหลังมีมติออกมาแล้วจากเอกสาร
ส่วนจะคัดค้านเพื่อทบทวนแนวทางนี้หรือไม่ นายคารม กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็นในประเด็นนั้น เพราะภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วม อยู่ที่ว่าผู้บริหารมีแนวทางอย่างไร และไม่ทราบว่าในรัฐบาลก่อนหน้านี้มีแนวทางอย่างไร
“ผมมองอย่างนี้ว่ารัฐบาลผสมก็เหมือนรุ้งกินน้ำ มีหลายสีในนี้ มีหลายสีในนี้เราต้องมองว่า รุ้งหลายสีสวยงาม ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” นายคารม กล่าว
เมื่อถามย้ำว่ามีความกังวลใจเรื่องการสื่อสารที่อาจผิดพลาดหรือไม่ เพราะพรรคภูมิใจไทย รับผิดชอบกระทรวงหลักถึง 4 กระทรวง นายคารม กล่าวว่า วันแรกที่เข้าร่วมประชุม มีความกังวลว่าเอกสารจะหลุด โดยเฉพาะเมื่อพรรคภูมิใจไทยไว้ใจให้มาทำงาน ก็ระมัดระวังมาก และก็กังวล แต่โดยหลักการเป็นรองโฆษกรัฐบาล ความรับผิดชอบสูง เพราะเป็นรองโฆษกจากพรรคร่วม ยอมรับว่าโฆษกรัฐบาลมีความชัดเจนที่ชี้แจงเรื่องการแถลงข่าวมติ ครม. ได้มอบหมายให้รองโฆษกที่มาจากพรรคร่วมรับผิดชอบสื่อสาร งานในส่วนของพรรคที่สังกัด ผมไม่ได้ติดใจเรื่องการรองโฆษกเข้าร่วมประชุมครม. แต่จะมีปัญหาในการสื่อสาร
สำหรับพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคลำดับ 2 จะไม่มีการทักท้วงอะไรใช่หรือไม่ นายคารม กล่าวว่า เรื่องนี้ ไม่ถึงเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นหรือไม่ และคิดว่าต่อไปอาจจะเกิดปัญหาหากรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีทั้งหมด 3 คนจาก 3 พรรค ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ก็จะทำให้รองโฆษกฯ เมื่อทำหน้าที่แล้วจะเว้นช่วงไปอีก 3 สัปดาห์ ถึงจะได้เข้าประชุม ครม.อีกครั้ง จะทำให้มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร หากในสัปดาห์ที่ไม่ได้เข้า แต่ปรากฏว่ามีการสอบถามเรื่องใน ครม. ก็จะตอบคำถามยาก เพราะสุ่มเสี่ยง และในบางครั้งเมื่อเราไม่ได้เข้าประชุม ครม. ก็จะไม่ได้ยินเรื่องต่าง ๆ ในที่ประชุมเอง ก็ต้องระมัดระวัง เพราะหากสื่อสารไม่ตรงก็จะกลายเป็นเรื่องอันตราย
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับทราบเรื่องนี้แล้วหรือยัง นายคารม กล่าวว่า ตนเองได้เรียนไปแล้วก่อนการประชุม ครม. ว่าไม่ได้เข้าประชุม ซึ่งนายอนุทินก็รับทราบ พร้อมถามความเห็น และตอบว่าให้เป็นไปตามนโยบายของผู้บริหาร