‘ณัฐวุฒิ’ ขอสภาเห็นชอบญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางลงรหัส G ให้เด็กไร้สถานะ
‘ณัฐวุฒิ’ ขอสภาเห็นชอบญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางลงรหัส G ให้เด็กไร้สถานะ ยืนยันเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ไม่ใช่แค่ศึกษาธิการ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการลงรหัส G แถลงข่าวการยื่นหนังสือต่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันที่ 11 ตุลาคมของทุกปี สหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันเด็กหญิงสากล ที่ผ่านมาประชาชนทราบข่าวความรุนแรงต่อเด็กและสตรีมาตลอด รวมถึงปัญหาการลงรหัส G ให้กับนักเรียนที่ไม่มีสถานะและเข้าไม่ถึงการศึกษาในประเทศไทย ซึ่งมีเด็กไร้สัญชาติจำนวนมากได้รับผลกระทบ จึงประสานมาทางพรรคก้าวไกลว่าต้องการใช้พื้นที่ของสภาฯ แก้ไขปัญหา จึงรับเรื่องร้องเรียนและพร้อมส่งเรื่องต่อไปยังรองประธานสภาฯ คนที่ 1
นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สัปดาห์นี้และสัปดาห์ต่อไปจะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเด็กผู้หญิงและชาติพันธุ์รวมถึงบุคคลไร้สถานะในประเทศไทยในวาระงานสภาฯ ตนอยากให้ประชาชนติดตามอยู่ 2 ประการ ประการแรก ญัตติขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการลงรหัส G และสถานะบุคคลให้กับนักเรียนที่ไร้สถานะได้ถูกบรรจุในสภาฯ คาดว่าจะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ แต่มีข่าวออกมาว่าวิปรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเกี่ยวข้องกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องตั้ง กมธ.ที่มีหลายฝ่ายเข้ามาร่วม
อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกล รวมถึง ปารมี สส.เจ้าของญัตติ มองว่าการลงรหัส G ให้กับนักเรียนที่ไร้สถานะไม่ได้เกี่ยวข้องแค่กระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน รวมถึงหน่วยงานอีกจำนวนมาก ยืนยันว่ารัฐสภาต้องให้พื้นที่กับเรื่องดังกล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ร่าง พ.ร.บ.สภาชนเผ่าพื้นเมืองที่เสนอโดยภาคประชาชน คาดว่าจะพิจารณาในสัปดาห์หน้า แม้ร่างดังกล่าวไม่อาจประกบเข้ากับร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และคุ้มครองสิทธิชาติพันธุ์ที่มีการเสนอโดยหลายหน่วยงาน แต่ตนขอส่งเสียงให้ร่างสภาชนเผ่าพื้นเมืองของภาคประชาชนเป็นอีกร่างที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและการคุ้มครองชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย จึงขอทุกฝ่ายให้การสนับสนุนและรับหลักการ อย่าใช้วิธี ‘อุ้ม’ ไปศึกษา เพราะอุ้มไปก็มีบทเรียนที่ไม่ใช่การไปศึกษาอย่างจริงจัง เมื่อกลับมาก็ใช้เสียงข้างมากปัดตกร่างดังกล่าว
