‘จาตุรนต์’ ยันไม่ได้คุย ‘พล.อ.พิศาล’ จำเลยคดีตากใบ
ด้าน ‘รอมฎอน’ เผยไม่เจอเจ้าตัวตั้งแต่ก่อนเดือน ส.ค.มองผู้ฟ้องคดีเพียงแค่ต้องการบันทึกเหตุการณ์หลายมุม
วันนี้ (11 ก.ย.67) นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ส่งตัว พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในคดีตากใบว่า เรื่องนี้เราไม่ได้คุยกันในคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร แต่ได้ติดตามว่าเรื่องนี้ไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ส่วนตัวตนเองไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.พิศาลที่ตกเป็นจำเลย ได้แค่ฟังการหารือของนายรอมฎอนกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ สส.ซึ่งเข้าใจว่าเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับข้อจำกัดเรื่องรัฐธรรมนูญ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้คือ ศาลต้องขอมาถึงสภาผู้แทนราษฎร แต่ในวรรคสุดท้ายก็มีการระบุว่าต้องไม่ขัดขวางการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้น
ตอนนี้ศาลยังไม่ได้ขอมา ซึ่งก็เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีผลอย่างไรต่อความรู้สึกหรือคดีที่กำลังจะหมดอายุความ ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามและทำความเข้าใจ หากเกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการเราก็ต้องเขียนรายงานที่แสดงถึงความเข้าใจต่อกรณีนี้ที่ใช้คำว่าประวัติศาสตร์บาดแผล
ส่วนการเสนอเป็นเรื่องให้สภาฯ ลงมตินั้น ต้องเป็นเรื่องที่มีการร้องขอมา แต่จากการอ่านรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาก็ถือว่ามีเอกสิทธิ์ในการคุ้มครองของสภาฯ ที่เปลี่ยนไปเยอะ ในอดีตของเรื่องไหนขอมาก็ไม่ให้ แม้ว่าจะตรงหรือไม่ตรงกับวันประชุมก็ตาม เพราะอาจเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่ช่วงหลังเป็นเรื่องของการทำหน้าที่ และเป็นเรื่องการยินยอมที่หากเจ้าตัวขอสภาฯ ก็ยอม
ด้านนายรอมฎอน กล่าวต่อว่าเท่าที่ทราบมา พล.อ.พิศาล มาร่วมลงมติในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระพิจารณาร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่ง คสช. รวมถึงไม่ได้เข้าประชุมใน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว คาดว่าก่อนวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ศาลจังหวัดนราธิวาส รับคำร้องในคดีอาญาตากใบ โดย พล.อ.พิศาล เป็นจำเลยที่หนึ่ง
ตนเองมองว่าหากคดีดังกล่าวหมดอายุความในมือของพล.อ.พิศาล ก็จะไม่เป็นผลดี และผู้ฟ้องคดีก็ต้องการเพียงแค่ให้เรื่องราวของเหตุการณ์นี้ในแต่ละมุมถูกบันทึกไว้ ในกระบวนการยุติธรรมไทย
