POLITICS

‘พิธา’ ยังมั่นใจเสียง ส.ว. โหวตเลือกนายก ขอไม่เจาะจงสายทหารหรือพลเรือน ปัดตอบตัวเลขชัดเจน หวั่นเกิดแรงกระเพื่อม

ขอรอดูพร้อมกันอีก 2 วัน ชี้หากเลื่อนวันโหวตอาจทำประเทศเสียโอกาส เชื่อประชาชนออกมาเคลื่อนไหวไม่เกิดปัญหา

วันนี้ (11 ก.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีที่กกต.อาจมีแนวทางประชุมเรื่องหุ้นสื่อไอทีวีไปจนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลให้ ส.ว.นำมาใช้อ้างเพื่อขอเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป เนื่องจากมองว่าคุณสมบัติยังไม่พร้อม

นายพิธา ระบุว่า การเลื่อนการเลือกผู้นำของประเทศในขณะที่มีสภาวะวิกฤต เป็นเรื่องที่ประชาชนเสียผลประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการตัดสินใจของประธานสภาและสมาชิกสภาร่วมกัน ตนเป็นหนึ่งใน 750 คน ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่คงต้องวิงวอนไปยังเพื่อนสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชน ว่าการที่จะให้การเลื่อนการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป ประเทศชาติจะเสียผลประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับตนแต่อย่างใด

ส่วนการพูดคุยกับ ส.ว. ส่วนใหญ่เป็นสายพลเรือนหรือสายทหารนั้น นายพิธาระบุว่าไม่ได้เจาะจงขนาดนั้น และไม่ได้ดูว่ามาจากฝ่ายไหน แต่คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับหลักการที่ ส.ว.ยังหนักแน่นในการบอกว่าหากรัฐบาลที่รวมเสียงข้างมากได้ ก็จะต้องโหวตตามหลักการ ไม่อยากโหวตสวนมติของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการทอดไมตรีไปยัง ส.ว.สายทหารบ้างหรือไม่เนื่องจากมีทหารอยู่ในส.ว. เกือบ 100 คน อาจงดออกเสียงได้ นายพิธาระบุว่าใช้คำว่าทอดไมตรีคงไม่ถูกต้อง คงจะใช้คำว่าปรึกษาหารือทำความเข้าใจกัน ทลายกำแพงซึ่งกันและกัน และตนได้ปราศรัยไปหลายครั้งว่าหากเอาโอกาสของประชาชน เอาหลักการและประชาธิปไตยเป็นตัวตั้ง หากตนเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ เวลาอีก 1 ปีที่ ส.ว.ยังมีวาระดำรงตำแหน่งอยู่ ก็อยากเอาประสบการณ์ของ ส.ว. ที่เป็นอดีตข้าราชการ อดีตรัฐมนตรี กับเทคโนโลยีใหม่ๆที่ตนเข้าใจ มาร่วมกันแก้ไขปัญหาและหวังว่าจะได้ปรึกษาหารือกันผ่านกลไกรัฐสภา เพื่อที่จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยดี และหวังว่าจะมีโอกาสทำงานร่วมกันในฐานะนายกรัฐมนตรี

ส่วนการเตรียมตัวแสดงวิสัยทัศน์หากมีการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคม นายพิธาระบุว่ามีการเตรียมตัวมานานแล้ว

ส่วนกรณีที่มีคนจากหลายกลุ่มมาติดตามการโหวตนายกฯ ที่รัฐสภานั้น กังวลว่าอาจจะเกิดความไม่เข้าใจกันหรือไม่นั้น นายพิธาระบุว่า ได้เห็นการสัมภาษณ์ของนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา ประธานสภาที่ระบุว่ามีการเตรียมสถานที่ไว้รองรับประชาชนนับ 10,000 คน ซึ่งน่าเสียดายที่ประชาชนเลือกมาแล้วยังต้องมาลุ้นอีก ทั้งที่ควรประชุมสภาและผลักดันกฎหมาย รวมถึงคุยกันเรื่องกรรมาธิการได้แล้ว น่าเสียดายที่ต้องมาลุ้นกันต่อ แต่เชื่อว่าประธานสภาและทีมงานจะบริหารจัดการได้ดี และการควบคุมวาระทางสังคมของประชาชนโดยการรวมตัวอย่างสันติ ก็เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย

ส่วนกรณีพรรคร่วมรัฐบาลเดิมมีการประชุมกัน มีการคาดการณ์หรือไม่ว่าจะมีการส่งบุคคลลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายพิธา ระบุว่า ตนไม่ได้ติดตาม เท่าที่ทราบมีเพียงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติคนเดียว แต่ที่เหลือก็คงต้องรอการประชุมของรัฐบาลเดิมที่จะเป็นฝ่ายค้านในอนาคต ว่าจะมีมติอย่างไร แต่ไม่ได้มีปัญหาหรือมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ

ส่วนได้ประเมินหรือไม่ว่าในวันที่ 13 กรกฎาคมที่เป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะมีการส่งชื่อนายพิธาเพียงคนเดียวหรือจะมีชื่ออื่นแทรกเข้ามานายพิธามองว่าเป็นไปได้หมด และไม่ใช่เรื่องผิดปกติในปี 2562 ก็มี 2 ชื่อไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนก็ไม่ได้ทำให้การเตรียมการแตกต่างออกไป

นายพิธายังฝากถึง ส.ว.บางส่วนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าเมื่อวานนี้มีโอกาสพูดกับ ส.ว. ผ่านทางรายการโทรทัศน์ ตนก็ยังยืนยันในคำเดิม ว่าต้องชื่นชมและขอบคุณในความกล้าหาญที่ยืนยันตามมติของประชาชนให้โอกาสประเทศได้เดินหน้า และไม่ใช่เรื่องของนายพิธา หรือพรรคก้าวไกลแต่เป็นเรื่องของประเทศโดยรวม หากตอนนี้ไม่ใช่ตนแต่เป็นคนอื่นตนก็ยังจะพูดแบบนี้ ว่าตามหลักประชาธิปไตยคือรัฐบาลเสียงข้างมาก การลงคะแนนในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ไม่ใช่ลงให้พิธาแต่ลงให้รัฐบาลเสียงข้างมากที่มาจากมติของประชาชน 25 ล้านคนหรือ 75% ของประเทศ และขอให้สัญญาว่าคำว่าประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่เสียงข้างมากอย่างเดียว แต่คือการให้โอกาสคนเสียงข้างน้อย หรือคนที่ไม่เคยมีสิทธิ์มีเสียงในประเทศนี้ ให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินให้ลุล่วงไปได้

“ท่านยังมีโอกาส หรือมีกลไกให้ตรวจสอบผมได้ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผ่านกรรมาธิการงบประมาณ สื่อมวลชนก็เป็นเสาหลักของประชาธิปไตยในการตรวจสอบรัฐบาล เมื่อถึงเวลาผมทำไม่ได้จริง ท่านสามารถโหวตผมออกได้ ถ้าผมเอาคำว่าผมออก แล้วเอาคนอื่นใส่แล้ว ให้ระบบเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ คิดว่าประเทศจะเดินหน้าได้และเป็นทางรอดของประเทศ”

ส่วนการโพสต์คลิปวิดีโอลงช่องทางโซเชียลมีเดีย ในวันนี้ นายพิธาระบุว่าเป็นการสื่อสารกับประชาชนให้มากที่สุด

เมื่อถามย้ำว่ายังมั่นใจว่าจะได้เสียงส.ว. เพียงพอนายพิธายืนยันว่ายังคงมั่นใจส่วนจำนวนที่ชัดเจนขอให้รอดู หากพูดออกไปตอนนี้อาจจะมีแรงกระเพื่อม หรือเกิดผลกระทบกับการตัดสินใจในอีก 2 วันนี้ ดังนั้นรออีกแค่ 2 วันก็รอดูพร้อมกัน

Related Posts

Send this to a friend