ประธาน กสทช. ยืนยัน คุณสมบัติครบถ้วนและวุฒิสภารับรองถูกต้อง

ย้ำ ไม่เคยทำหน้าที่บอร์ดธนาคารกรุงเทพ และไม่รับเงินเดือนแพทย์รามาฯ ถาม กมธ.ไอซีที ทำเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่หรือไม่

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา จะพิจารณาคุณสมบัติว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบความคืบหน้าใด ๆ ส่วนตัวไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามสอบถามไปยังประธานวุฒิสภาแล้ว แต่ก็ไม่ทราบเช่นกัน จึงยังไม่มีรายละเอียด

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ กล่าวว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธาน กสทช. ช่วงปีกว่าที่ผ่านมา ถือว่าดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติโดยวุฒิสภาอย่างถูกต้อง ก่อนที่ประธานวุฒิสภาจะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

สำหรับประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่ารับตำแหน่งกรรมการธนาคารกรุงเทพด้วย ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ ยืนยันว่า ไม่เคยทำหน้าที่กรรมการธนาคารกรุงเทพ พร้อมทั้งยังมีหนังสือยืนยันจากธนาคารกรุงเทพอีกด้วย ส่วนประเด็นที่กล่าวหาว่ายังรับงานตรวจรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ย้ำว่าหลังเข้ารับตำแหน่ง ประธาน กสทช. ก็ไม่ได้ทำหน้าที่แพทย์รักษาคนไข้อีก ยกเว้นมีเหตุด่วน หรือความจำเป็นที่ต้องรักษาชีวิต หรือให้คำปรึกษาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ทำโดยยึดหลักมนุษยธรรมและจรรยาบรรณ ไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ

“ความเป็นแพทย์ ผมคิดว่าไม่ได้ขัดต่อคุณสมบัติหรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนใด ๆ กับกิจการโทรคมนาคมอยู่แล้ว อีกทั้งคำนำหน้าชื่อของผมก็เป็นศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์ ดังนั้น จึงไม่เข้าใจว่ากรรมาธิการไอซีทีมีอำนาจหน้าที่ใด หรือจะทำเกินกว่าสิ่งที่ประธานวุฒิสภาได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วหรือไม่” ประธาน กสทช. กล่าว

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ ถูกเอกชนฟ้องร้องและเป็นจำเลยในคดีมาตรา 157 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยระบุว่า ขณะนี้ได้รับทราบตามเอกสารที่บริษัทแจ้งมาเท่านั้น ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณา จึงอยากให้ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด