POLITICS

‘สุรเชษฐ์’ มั่นใจ อาคาร สตง.ถล่ม ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ให้น้ำหนักไปที่การออกแบบ

‘สุรเชษฐ์’ มั่นใจ อาคาร สตง.ถล่ม ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ให้น้ำหนักไปที่การออกแบบ และต้องหาข้อมูลเพิ่มทำไม สตง.จึงจะยกเลิกสัญญาเมื่อเดือน ม.ค.68

วันนี้ (11 เม.ย. 68) นายสุรเชษฐ์ ปวีณวงศ์วุฒิ สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการติดตามงบประมาณฯ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังรับฟังการชี้แจงของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากที่รับฟังทาง สตง.ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าโอกาสที่อาคาร สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 มีโอกาสที่จะเป็นเหตุสุดวิสัยน้อยมาก เพราะถ้าทุกอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ตามที่ สตง.ชี้แจง มันต้องไม่พัง เพราะตึกนี้มีความสูง 30 ชั้น ไม่ได้อยู่ในระยะที่เสี่ยง อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่เมียนมากว่า 1,000 กม. หากมีแรงที่กระทำกับตึก 2-3 เท่า ต้องไม่พัง เหมือนอาคารอื่น ๆ ที่สร้างได้มาตรฐานในกรุงเทพมหานคร หากเป็นเช่นนั้นกรุงเทพฯ จะปลอดภัยมากจากแผ่นดินไหว ถ้าไม่มีตึกนี้พัง

“ต้องมีอะไรผิดพลาดที่ตึกนี้ แต่สาเหตุที่ทำให้ผิดพลาด ยังสรุปไม่ได้ แต่สังคมส่วนหนึ่ง จากที่ผมประเมินส่วนใหญ่ไปตำหนิในเรื่องคุณภาพของเหล็ก เป็นความบกพร่องอย่างหนึ่งหรือไม่ ตามที่รัฐมนตรีอุตสาหกรรมไปปราบ ต้องแยกว่าอาจไม่ใช่สาเหตุ เหล็กที่ต้องได้มาตรฐานเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ไม่ใช่ว่าคุณภาพเหล็กทำให้ตึกนี้ถล่ม เพราะการใส่เหล็กถูกแบบไหม สำคัญกว่าคุณภาพเหล็ก สาเหตุเหล็กน่าจะเกี่ยวกับ แรงเฉือนและคอนกรีตด้วยหรือไม่”

นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า การเก็บตัวอย่างเหล็กหน้างาน ไม่ใช่การสุ่มที่ดี เหล็กที่พังทลายไปแล้ว กับเหล็กที่ใช้จริง ต้องไปหาให้เจอว่าผ่านไหม ถ้าไม่ผ่านสร้างมาถึงจุดนี้เป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นโอกาสที่จะเป็นเพราะคุณภาพเหล็กน้อยมาก ถ้าใส่เหล็กตามแบบสำคัญกว่า หรือถ้าไม่ใช่เหล็ก แล้วเป็นอะไร ในที่ประชุมมีความเห็นหลากหลาย แม้แต่คำพูดของ สตง.ก็ยังอธิบายไม่ชัด

“แต่ที่ผมตีความ มีหลายคนเข้าใจไปในเรื่องการออกแบบ มีอะไรผิดพลาดหรือไม่ แต่ไม่ใช่ว่าคือสาเหตุ ถ้าสังเกตจากคำพูดของ สตง.และสภาวิศวกรฯ แบบไม่สอดคล้องกับข้อกฎหมาย โอกาสที่เป็นไปได้สูงว่า การออกแบบไม่ดีเพียงพอ แต่จะเป็นสาเหตุหลักหรือไม่ต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจน”

นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า มีข้อสังเกตถึงกรณีเชียร์วอลล์ และปล่องลิฟท์ ที่ถล่มมาก่อน สำคัญมาก เพราะปล่องลิฟท์เป็นเหมือนกระดูกสันหลัง เอาไปรับแรงลมแนวราบ มีส่วนต่อการรับแรงแผ่นดินไหว ส่วนนี้อาจมีปัญหาได้ เป็นประเด็นใหญ่ที่ชุดสืบสวนให้ความสำคัญในการตรวจสอบ

“จากที่ สตง.ชี้แจงมีการแก้แบบเกิดขึ้นจริง ทำให้ Shear Wall หรือ ผนังคอนกรีตเสริมเหล็กรับแรงเฉือน เล็กลงจริง โดยอ้างว่าแบบก่อสร้างกับแบบสถาปัตย์ขัดแย้งกัน โดยอ้างว่าถามผู้ออกแบบแล้วว่าถ้าลด Shear Wall ทำได้ จึงสรุปยากว่าจะเป็นที่แบบ ผู้รับเหมา การก่อสร้าง หรือ ผู้คุมงาน ซึ่งปล่องลิฟท์ มีโอกาสสูง ต้องเอาไปทำแบบจำลอง นอกจากสาเหตุหลัก ทาง สตง.ควรจะขยายผลด้วย ไม่ว่าจะข้อกล่าวหาทุจริต คุณภาพเหล็ก หรือแอบเซ็นแบบหรือไม่ มีการตรวจสอบแบบหรือไม่ และการก่อสร้าง ครบหรือไม่ สาเหตุต้องไปติดตามกันต่อไป”

นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่าจากการที่ สตง.ชี้แจงมีการพยายามจะยกเลิกสัญญาจริง ตามที่นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ชี้แจงว่า คณะกรรมการบริหารสัญญาพบว่าการทำงานล่าช้า จึงมีมติยกเลิกสัญญาไปเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2568 โดยได้เสนอผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไปแล้ว แต่ยังไม่เข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเพราะหมดวาระ

ในประเด็นนี้นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่าได้สอบถาม สตง.ในที่ประชุม ทราบว่าการยกเลิกสัญญายังไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะยังไม่ผ่านมติของบอร์ด ซึ่งสาเหตุที่จะยกเลิกสัญญาเพราะมีงานล่าช้า สอดคล้องกับข้อเท็จจริงว่า วันที่ถล่มลงมา มีการเร่งเกณฑ์คนงาน เพราะผู้รับเหมาไม่อยากโดนกล่าวหาว่าทิ้งงาน ดังนั้นการยกเลิกสัญญาจึงยังไม่น่ามีผลตามกฎหมาย

“ประเด็นการยกเลิกสัญญา ผมคิดว่าแม้จะยกเลิกสัญญาหรือไม่ยกเลิก งาน 900 กว่าล้าน ที่ตรวจรับไปแล้ว 22 งวด เงินรัฐส่วนนี้คงไม่สูญไป ทางกรมบัญชีกลางบอกว่า ถ้า สตง.ทำถูกต้องตามสัญญา ส่วนนี้ไม่สูญหาย ไม่สูญเปล่า ส่วนการยกเลิกสัญญาจากความล่าช้าเป็นหลัก เป็นการตรวจรับ ในข้อที่น่าสงสัย ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องใช้เหล็ก เรื่องทดสอบ คุณภาพ การเปลี่ยนแบบ มีการเดินตามกระบวนการที่ถูกต้อง คนที่อนุมัติคือผู้ออกแบบ จะเป็นเหตุผลใดต้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียด”

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ถ้าไปสืบสวนหาสาเหตุเชิงลึก มีเหตุผลอะไรบ้างในการยกเลิกสัญญา นั้นเท่าที่ฟังเบื้องต้นความล่าช้า น่าจะเป็นสาเหตุหลัก ซึ่งคงต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นนี้ว่าสาเหตุการยกเลิกสัญญามาจากเหตุผลใดบ้าง

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการฯ จะติดตามเรื่องนี้ต่อ เพราะยังมีการตรวจสอบของคณะกรรมการของนายกรัฐมนตรี แต่ในแง่ของการตรวจสอบระหว่างนี้คิดว่าทางสำนักงานเขต และกรุงเทพมหานคร ก็สามารถตรวจสอบได้ด้วย เพื่อความโปร่งใส

“ต้องยอมรับว่าเหตุอาคาร สตง.ถล่มครั้งนี้ใหญ่ที่สุดในโลก จากการเกิดแผ่นดินไหว และตึกใหญ่พังลงมา เป็นกรณีตัวอย่างเพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้ จะผลักดันให้เป็นกรณีศึกษาและยังมีประเด็นต้องตรวจสอบอีกหลายเรื่อง” นายสุรเชษฐ์ กล่าวย้ำ

Related Posts

Send this to a friend