รัฐบาล กำชับ ดูแล-อำนวยความสะดวก ประชาชนช่วงสงกรานต์

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้มีความปลอดภัยมากที่สุด พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด ทั้งตั้งจุดตรวจ และจุดอำนวยความสะดวกตาม โดยยืนยันเรื่องของงบประมาณไม่ใช่ข้อจำกัด เพราะได้มีการพูดคุยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วว่าต้องให้ความสำคัญกับการลดความสูญเสียในช่วงเทศกาลให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เชิญหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทั้งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงบประมาณ ชี้แจงสถานการณ์ รวมถึงข้อที่ควรระมัดระวังในปัจจุบัน โดยมีผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 4 หน่วยงานเข้ามาให้ข้อมูล

สภาพัฒน์ฯ รายงานภาพรวมของเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มชะลอตัวในปี 2566 และ 2567 ส่วนประเด็นที่ประเทศไทยสามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดี คือ อัตราเงินเฟ้อ ที่ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในอัตราที่สูงมากนัก จึงไม่ใช่ประเด็นหลักที่น่ากังวล ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ซึ่งอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ร้อยละ 1-3 ส่วนที่ต้องเฝ้าระวังคือการส่งออก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัว อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทย รัฐบาลต้องมีนโยบายกระตุ้นการส่งออกให้มากที่สุด พร้อมยืนยันถึงเสถียรภาพทางการเงินการคลัง เนื่องจากหนี้ต่างประเทศของไทยไม่ได้อยู่ในอัตราที่สูงเกินไป อีกทั้งเงินคงคลัง ก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม และสถาบันการเงินของประเทศไทย ก็มีความเข้มแข็ง จึงไม่มีความเสี่ยงด้านการเงินการคลังของไทย

ที่ผ่านมานโยบายของรัฐบาล ได้ดำเนินการตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเฉพาะการกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 นำมาดูแลสุขภาพประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยต่อจากนี้จะเป็นการดูแลกลุ่มเปราะบางและกลุ่มที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ ขณะที่ภาระดอกเบี้ยต่อรายได้ของรัฐในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 8.5 คาดว่าสิ้นปีงบประมาณอาจขยับเล็กน้อยที่ร้อยละ 8.75 โดยไม่ได้เกินมาตรฐานสากลจนส่งผลกระทบต่อภาระดอกเบี้ยและการจัดเก็บรายได้ 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 จัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท