POLITICS

‘เพื่อไทย’ พร้อมผลักดัน นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลให้เป็นจริง

‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่ยานนาวา เจอชาวบ้านระบายทุกข์ทั้งน้ำตาโควิดยังระบาดหนัก วอนผลักดัน นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลให้เป็นจริง รองรับผู้ป่วยในทุกเขตอย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ (11 เม.ย. 65) พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดนุพร ปุณณกันต์ เลขานุการการเลือกตั้ง ส.ก. นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายธีระพงษ์ มงคลวัฒนลีลา ผู้สมัคร ส.ก. เขตยานนาวา เบอร์ 1 และสมาชิกพรรคเพื่อไทยร่วมลงพื้นที่ชุมชนวัดช่องลมเพื่อรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน โดยมีแกนนำและประชาชนในชุมชนคลองขวาง ชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนา ชุมชนเย็นอากาศ ฯลฯ โดยมีตัวแทนของพรรคเพื่อไทยรับฟังความคิดเห็น ตอบคำถามและรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล เพราะในช่วงสถานการณ์โควิด พี่น้องในชุมชนติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมาก พร้อมช่วยผลักดัน 50 เขต 50 โรงพยาบาล ให้เป็นจริง 

นายภูเมธ รองประธานชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนา กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาตัวเองและครอบครัว 14 คนติดเชื้อโควิด คนในชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนาติดเชื้อโควิด 1 พันคน ตนเองติดเชื้อโควิดเพราะลงพื้นที่ช่วยพี่น้องในชุมชนจนติดโควิดและลามมาติดคนในบ้าน ตัวเองติดเชื้อโควิดลงปอด ตนต้องตระเวนหาโรงพยาบาลให้ผู้ติดเชื้อโควิดและตัวเอง ไปทั้งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลกลาง ศูนย์พักคอยวัดดอกไม้ แต่เชื่อไหมว่า แม้แต่ตัวเองก็หาเตียงไม่ได้ ญาติในชุมชนตัวเองต้องเสียชีวิตระหว่างเดินทางไปหาโรงพยาบาลรักษา ตนจึงอยากถามว่า นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล จะต้องทำอย่างไร 

ขณะที่คุณแม่นก ประธานชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนากล่าวว่า คนในชุมชนติดโควิด ตนโทรหาทุกเบอร์ฉุกเฉิน โทรหาทุกหน่วยงาน รอไปอีก 3 วันไม่มีหน่วยงานไหนตอบกลับ จนต้องพาคนป่วยขึ้นรถกระบะไปเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล แต่คำพูดที่หมอพูดกลับมาคือ “คนป่วยยังไม่โคม่า ยังไม่รับรักษา เตียงรักษาเต็มหมดแล้ว” ตนเองพูดไม่ออกอัดอั้นจนร้องไห้ก้มกราบหมอและพยาบาลตรงนั้นเพื่อขอร้องให้ช่วยรักษาชีวิตคนคนหนึ่งที่กำลังรอความตายอยู่ตรงหน้าด้วย นี่คือความเจ็บปวดและความสูญเสียในช่วงโควิดที่ผ่านมา เมื่อเห็นนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลแล้วดีใจมากจึงอยากถามแนวทางว่าจะดำเนินการโครงการนี้ให้สำเร็จได้อย่างไร 

นายวิชาญ กล่าวว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร ยังขาดระบบการจัดการเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดอย่างชัดเจน ไร้ประสิทธิภาพ ขาดการประสานงานและมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอที่จะรับผู้ป่วยโควิดในระดับสีเหลืองและระดับสีแดง ในขณะที่ปัจจุบันนี้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 5 หมื่นคน แต่ หน่วยงานที่ดูแล คือ สปสช. ไม่สามารถรองรับการรักษาได้อย่างเพียงพอ ดังนั้นจะต้องจัดระบบบริหารใหม่ เราขอเสนอให้ กทม. รับงบประมาณเงินกองทุนประกันสุขภาพจำนวน 15,000 ล้านบาทจาก สปสช. มาบริหารจัดการเองให้มีประสิทธิภาพ 

ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุขสังกัด กทม. ทั่วทุกเขต 50 เขต ต้องมีโรงพยาบาลในสังกัด กทม. อย่างน้อย 1 โรงพยาบาลในทุกเขต และจัดระบบบริหารรองรับผู้ป่วยในทุกเขตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับผู้ป่วยช่วงโรคระบาดโควิดให้มีประสิทธิภาพต่อไป

นายดนุพร กล่าวว่า หน้าที่หลักของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือ ส.ก.นั้นต้องทำงานใกล้ชิดกับชาวกรุงเทพ ทำหน้าที่นิติบัญญัติในสภา กทม. มีหน้าที่อนุมัติแผนงานและงบประมาณปีละประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยแต่ก่อนนั้นประชาชนไม่ได้มีความตื่นตัวในการตรวจสอบการใช้งบประมาณในสภา กทม.เลย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เราจะมี ส.ก.เข้าไปเพื่อตรวจสอบ ผลักดัน และสนับสนุนนโยบายของฝ่ายบริหารเพื่อตรวจสอบการใช้งบประมาณของกทม.อย่างมีประสิทธิภาพ และให้งบประมาณได้ใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน กทม.อย่างแท้จริง

นายธีระพงษ์ มงคลวัฒนลีลา ผู้สมัคร ส.ก.เขตยานนาวา เบอร์ 1 กล่าวว่า ตนเองเกิดเติบโต และทำงานอยู่ในเขตยานนาวา ตนเห็นศักยภาพของเขตยานนาวาที่จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตยานนาวา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 4 วัด คือวัดทองบน วัดปริวาส วัดด่าน และวัดคลองภูมิ เราเห็นโอกาสส่งเสริมที่จะส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม เรามีความคิดสร้างทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมวัดริมแม่น้ำให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน สนับสนุนให้มีการจัดตลาดนัดถนนคนเดิน ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมาเดินชมความงามของวัดในยามเย็น ส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าในชุมชนมาขายเสริมสร้างรายได้ให้ครอบครัว และเป็นการเพิ่มพื้นที่สาธารณะให้พี่น้องในชุมชนได้พักผ่อนแทนการไปห้างสรรพสินค้า และเป็นการส่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้สมาชิกในครอบครัวอีกด้วย

Related Posts

Send this to a friend