POLITICS

นายกฯ เดินหน้าทุน ODOS สานต่อ Thailand Zero Dropout ดึงเด็กกลับเข้าระบบการศึกษา

นายกฯ พี่อิ๊งค์ อวยพรวันเด็ก ใช้โอกาสเป็นการเรียนรู้สร้างกำไรให้ชีวิต เดินหน้าทุน ODOS สานต่อ Thailand Zero Dropout ดึงเด็กกลับเข้าระบบการศึกษา

วันนี้ (11 ม.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 ณ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้ธีม “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมวางอนาคต”

นางสาวแพทองธาร ได้ได้รับชมการแสดงฟ้อนบายศรีหลวงของเด็กและเยาวชนจากบ้านเฟื่องฟ้านนทภูมิ ราชาวดีหญิงและราชาวดีชาย อีกทั้ง ชมการแสดงชุด Under the sea จินตลีลาประกอบเพลงและบทเพลง Part of Your World ขับร้องโดยเด็กหญิง อัยย์ ธรรมวาริน (รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน Yamaha music) จากสมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา

นางสาวแพทองธาร ให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชน กล่าวถึงคำขวัญวันเด็ก ปี 2568 “ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” พร้อมแทนตนเองว่า “พี่” ระบุว่า พี่เป็นนายกฯ อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ทุกโอกาสถ้าเราสามารถเรียนรู้ได้จากเหตุการณ์ และคน ที่มีหลากหลายอาชีพหลายประสบการณ์หลายความรู้ โอกาสเหล่านั้นจะเพิ่มความรู้ให้กับเรา เป็นกำไรให้กับชีวิตเรา เราสามารถหาความรู้ได้จากคนทุกรุ่นทุกวัย ทำให้เราเป็นคนรับฟังเปิดกว้าง

โลกที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว เราต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน ไม่มีอะไรที่คงแท้แน่นอน การที่เรารู้ตัวและพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ดีอยากให้น้อง ๆ มีสิทธิเลือกอนาคตของตนเอง แต่ต้องมีผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาอยู่ข้าง ๆ จะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีสติ ทำให้เราสามารถเลือกอนาคตที่เราชอบได้

รัฐบาลมีนโยบาย ODOS ที่ได้รื้อฟื้นขึ้นมา การให้ทุนรูปแบบใหม่ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับน้อง ๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากยังมีน้อง ๆ ที่ไม่มีโอกาส หรือพ่อแม่ไม่สามารถส่งจนจบได้ เราจึงอยากสนับสนุนทุนการศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปวช. ปวส. และระดับมหาวิทยาลัยรัฐบาล โดยจะสนับสนุนทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 ทุนต่อรุ่น ผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อคัดเลือกน้อง ๆ ที่จะได้รับทุนการศึกษานี้

นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อว่าตนเองได้คิดขึ้นมาว่าอยากให้เด็กไทยมีโอกาสได้ไปเรียนต่างประเทศในช่วง Summer Camp เพราะไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสได้ไปศึกษาต่างประเทศ เราจะเรียกว่า ODOS Sumer Camp ระยะเวลาเรียน 5-6 สัปดาห์ ไม่ใช่ไปแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่จะมีทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน สวีเดน ฟินแลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งจะครอบคลุมทั้ง 878 อำเภอ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร รวม 928 พื้นที่ทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้รัฐบาลยังจะเดินหน้าต่อในนโยบาย Thailand Zero Dropout ซึ่งช่วยให้เด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาได้เข้ามาสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง ซึ่งนโยบายนี้ริเริ่มจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน รัฐบาลนี้จะทำต่อ ตอนนี้เราสามารถช่วยเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาได้ 25 จังหวัด ในปี 2567 และตอนนี้ขยายครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ

เด็ก ๆ ทุกคนมีวัยเด็กที่แตกต่างกันออกไป ขอให้น้อง ๆ มีวัยเด็กที่ได้หาความรู้ใช้เวลากับเพื่อนเยอะ ๆ เรามีเทคโนโลยีก็จริง แต่ต้องใช้เวลากับตรงหน้าให้เยอะขึ้น เพื่อจะได้เรียนรู้ความแตกต่าง ซึ่งเป็นสิ่งสวยงามในวัยเด็ก

นางสาวแพทองธาร ยังฝากถึงผู้ปกครอมีคำพูดที่ว่า “การเป็นพ่อแม่ที่ดีเป็นอย่างไร” แต่พ่อแม่ที่ดีคือพ่อแม่ที่มีความสุข พ่อแม่ไม่ใช่ผู้วิเศษแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง แต่การเป็นพ่อแม่ที่มีความสุขสนับสนุน และให้กำลังใจลูกอยู่เสมอ เป็นพ่อแม่ที่ลูกของเราต้องการที่สุด

ขอให้พ่อแม่ทุกคนเลี้ยงลูกให้เป็นความสุขของเขาและเป็นความภูมิใจของเราที่เห็นเขาเติบโตขึ้นทุกวันอย่างสมไว จึงขออวยพรให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เป็นเด็กที่สดใส มีคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องที่รักและห่วงใยดูแล มีเพื่อนที่ดี เรียนเก่ง ๆ อยากได้อะไรก็ขอได้ตามนั้น หวังว่าจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต

Related Posts

Send this to a friend